รีเซต

สั่งเด้งแล้ว! ผอ.ฉาวแอบถ่ายในห้องน้ำ หลักฐานมัดเพราะทำแฟลชไดรฟ์ตกไว้

สั่งเด้งแล้ว! ผอ.ฉาวแอบถ่ายในห้องน้ำ หลักฐานมัดเพราะทำแฟลชไดรฟ์ตกไว้
ข่าวสด
29 สิงหาคม 2563 ( 16:15 )
619

สั่งเด้งแล้ว! ผอ.ฉาวแอบถ่ายในห้องน้ำ ให้มาช่วยราชการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จนกว่าจะสอบสวนเสร็จ เผยหลักฐานมัด เพราะดันทำแฟลชไดรฟ์ตกไว้

 

 

จากกรณีที่เพจ Red Skull Forever โพสต์ข้อความว่า มีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.บ้านแพง จ.นครพนม ตั้งกล้องแอบถ่ายคลิปในห้องน้ำของร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลเรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยมีคนนำคลิปมาเผยแพร่ เปิดเผยถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีภาพในคลิปเห็นหน้า ผอ.เจ้าของคลิปชัดเจน เกรงว่าจะเป็นภัยสังคม แต่ผอ.เสนอเงินขอจบเรื่อง พร้อมข่มขู่ผู้เสียหายว่า แจ้งความไปก็เสียเวลา อ้างว่ามีญาติเป็นนายตำรวจนั้น

 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลพบว่า คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนส.ค.63 เหตุเกิดที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยที่มาของคลิป สืบเนื่องจากมีคนในร้านเก็บแฟลชไดรฟ์บันทึกข้อมูลได้ หลังเจ้าของทำตกในห้องน้ำ จึงนำมาตรวจสอบหาเจ้าของและพบว่า มีข้อมูลเป็นคลิปภาพจากกล้อง

 

อ่านข่าว ตั้งสอบ ผอ.รร.ประถม ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ โวรู้จักคนมีสี

 

อีกทั้งยังพบว่าบุคคลในคลิปเป็นคนนำกล้องไปตั้งแอบถ่ายในห้องน้ำ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.บ้านแพง แต่มีบ้านอยู่ในเขตอ.เรณูนคร จนกระทั่งทางเจ้าของร้าน ตรวจสอบประสานไปยังเจ้าของโดยเจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธ เพราะคลิปหลักฐานชัดเจน เพียงอ้างว่าเมาไม่มีเจตนาถ่ายคลิปคนอื่น และภายหลังตรวจสอบยังไม่พบผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิด แต่มีคนนำมาโพสต์แฉพฤติกรรมฉาว กลัวเป็นภัยสังคม จนเป็นกระแสข่าวดัง แต่ทางด้านเจ้าตัวยังไม่ออกมาชี้แจงหลังเป็นข่าว

 

ล่าสุด นายพลชัย ชุมปัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 2 เปิดเผยว่า หลังทราบข้อมูลกรณีมีข่าว ผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมนำกล้องไปแอบถ่ายในห้องน้ำร้านอาหาร ส่อในทางพฤติกรรมเป็นภัยสังคม และเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม สั่งการให้เจ้าตัวรายงานชี้แจง พร้อมตั้งการการสอบสืบข้อเท็จจริง หากมีมูลจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดตามขั้นตอน

 

ขณะเดียวกัน วันนี้มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการคนดังกล่าว มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาว่า ความผิดเข้าข่ายเจตนาหรือไม่ โดยจะพิจารณา 2 แนวทาง คือความผิดไม่ถึงขั้นร้ายแรง จะเป็นการลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์

 

แต่หากพบเจตนาหรือมีผู้เสียหายอาจจะเข้าข่ายวินัยร้ายแรงถึงขั้นให้ออกจากราชการ แต่เบื้องต้นยังไม่มีผู้เสียหายร้องทุกข์ โดยยืนยันไม่ปกป้องหากพบทำผิด และจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และการตรวจสอบประวัติ ไม่พบเคยมีพฤติกรรมเสี่ยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง