PYLON โบรกฯ คาดกําไร 2H67 ทยอยฟื้น แต่ไม่สดใส แนะนำถือ
#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์ หุ้นบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ระบุคาดกําไร 2H67 ทยอยฟื้น แต่ยังไม่สดใส Backlog ทรงตัวไม่สูง 745 ลบ. ท่ามกลางงานในตลาดซบเซาและแข่งขันรุนแรง แนวโน้มกําไรปี 2567 -79% y-y เหลือ 22 ล้านบาท แนวโน้ม 2H67 ฟื้น h-h จากเริ่มงาน 2 โครงการ ส่วนปี 2568 คาด +125% y-y จากฐานตํ่าและหวังรับงานภาครัฐมากขึ้น ประเมินราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 2.40 บาท แนะนําถือ รอความชัดเจนรับงานใหม่
ผลประกอบการ Q2/67 พลิกขาดทุน จากโครงการใหม่เลื่อนการเริ่มงาน ทั้งนี้ PYLON รายงานผลประกอบการ Q2/67 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 6.7 ล้านบาท (เทียบกับกําไรสุทธิ 1.2 ล้านบาทใน Q1/67 และ 11.4 ล้านบาทใน Q2/66) สาเหตุจากรายได้หดตัวเหลือ 160 ล้านบาท (-22% q-q, -48% y-y) เนื่องจากงานใหม่อย่างโรงแรม Hatai (มูลค่า 200 ล้านบาท) เลื่อนเริ่มงานเป็นเดือนมิ.ย. ทําให้อัตราการใช้เครื่องจักรลดลงเป็น 6-8 ชุด จาก 10 ชุดใน Q1/67 และ Q2/66 บวกกับการแข่งขันรุนแรงในตลาด กดดันให้อัตรากําไรขั้นต้นปรับลดเป็น 6.8% จาก 7.4% ใน Q1/67 และ 12.1% ใน Q2/66
หางานใหม่ยังท้าทายและแข่งขันสูง คาดหวังงานภาครัฐหนุนปีหน้า Backlog สิ้นเดือนส.ค.อยู่ที่ 745 ล้านบาท ส่วนใหญ่รับรู้ 2H67 เป็นงานขนาดเล็กและแข่งขันสูง โดยสัดส่วน 92% เป็นงานค่าแรงรวมวัสดุซึ่งมาร์จิ้นตํ่ากว่ารับเฉพาะค่าแรง (เทียบกับ Q2/66 ที่ 74%) ขณะที่ผู้บริหารเผยว่าตลาดฐานรากยังซบเซาและเผชิญการแข่งขันราคาที่รุนแรง พึ่งพาหลักจากงานเอกชนและอสังหาฯในช่วงที่เหลือของปีอย่างไรก็ดี เริ่มมีสัญญาณรัฐบาลเตรียมผลักดันงานประมูล แต่ยังต้องรอความชัดเจนของนโยบาย ขณะที่โครงการที่มีโอกาสเริ่มก่อสร้างปีหน้าและ PYLON มีศักยภาพร่วมรับงาน อาทิ รถไฟฟ้าสีส้ม, ทางด่วน Double Deck, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, Makasan Complex, มอเตอร์เวย์ M9, ทางด่วนจตุโชติ และสนามบินอู่ตะเภา
ประเมินกําไรปี 2567 -79% y-y แต่ทิศทาง 2H67 และปี 2568 คาดทยอยฟื้น ฝ่ายวิจัยประเมินกําไรสุทธิปี 2567 ที่ 22 ล้านบาท (-79% y-y) โดยแนวโน้ม 2H67 คาดฟื้นตัว h-h จากเริ่มงานโรงแรม Hatai (มูลค่า 200 ล้านบาท) และโครงการ Embassy Wireless (มูลค่า 100 ล้านบาท) ในเดือนมิ.ย.-พ.ย. 2567 ผลักดันให้อัตราการใช้เครื่องจักร Q3- Q4/67 คาดเร่งขึ้นเป็น 12-14 ชุด เบื้องต้นประเมินกําไร Q3/67 ที่ 10-15 ล้านบาท (จากขาดทุน 8 ล้านบาทใน Q2/67 และกําไร 3 ล้านบาทใน Q3/66) ขณะที่ปี 2568 คาดกําไร 49 ล้านบาท (+125% y-y) ฟื้นจากฐานตํ่าบนความคาดหวังรับงานภาครัฐมากขึ้นประเด็นหากปรับเพิ่มค่าแรงขั้นตํ่าเป็น 400 บาท/วัน (จาก 345 บาท) มองกระทบไม่มากเนื่องจากเป็นงานระยะสั้น โดยประเมินกระทบต้นทุนเพิ่ม 0.6% อิงค่าแรงคิดเป็น 16% ของต้นทุนรวม และมีส่วนจ้างรายวัน 36% ของแรงงานทั้งหมด
เคาะราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 2.40 บาท รอ Catalyst จากการรับงานใหม่ ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 2.40 บาท อิง PBV 1.7x (ค่าเฉลี่ยอดีต-1.75SD) แม้คาดกําไรฟื้นใน 2H67 และปี 2568 แต่ยังตํ่ากว่าปี 2565-25663 อยู่มาก ประกอบกับหุ้นมี Upside จํากัด จึงแนะนําถือ เชิงกลยุทธ์แนะรอความชัดเจนรับงานใหม่ โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินซึ่งอยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาและคาดได้ข้อสรุปสิ้นปีนี้