รีเซต

MTLเผยตลาดCLMVโตดี มองโอกาสขยายธุรกิจต่อ

MTLเผยตลาดCLMVโตดี มองโอกาสขยายธุรกิจต่อ
ทันหุ้น
8 กุมภาพันธ์ 2567 ( 14:18 )
49

#MTL #ทันหุ้น MTL ยังมีแผนสร้างการเติบโตสู่ระดับภูมิภาค มีการศึกษาตลาดอื่นๆในอาเซียน นอกเหนือจากที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้วใน สปป.ลาว กันพูชา เวียดนาม และพม่า รับความท้าทายมากขึ้นการการปรับเปลี่ยนนโยบายในแต่ละภูมิภาค แต่ที่ผ่านมาธุรกิจยังสร้างการเติบโตได้ดี รวมถึง สปป.ลาว แม้ช่วงที่ผ่านมาเงินเฟ้อสูง แต่ยังคงเห็นโอกาสในการเติบโตต่อเนื่อง

 

นายธนัท จักรวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL กล่าวถึงตลาดต่างประเทศที่เมืองไทยประกันชีวิตเข้าไปขยายกิจการว่ายังสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะที่ สปป.ลาว, กัมพูชา และเวียดนามก็ตาม และเพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจ คือเป็นประกัน ในระดับภูมิภาค บริษัทยังคงสนใจขยายกิจการไปยังพื้นที่อื่นๆที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะประเทศทางโซนใต้ของไทยที่มีจำนวนประชากรอยู่สูงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ที่ผ่านมาก็มีการเข้าไปสำรวจตลาดบ้างแล้ว

 

สนใจลุยตปท.

อย่างไรก็ตาม การขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศนั้น นายธนัท ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการศึกษาให้ละเอียด เพราะกฎเกณฑ์ที่แต่ละประเทศอนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนก็มีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องของการถือหุ้น การขอใบอนุญาต เงินทุนจดทะเบียน กฎเกณฑ์ใหม่ และยังรวมถึงวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ทำให้เป็นอีกความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะต้องพิจารณาให้ละเอียดก่อนเข้าไปลงทุน

 

นายธนัท ยังได้กล่าวถึงธุรกิจใน สปป.ลาว ด้วยว่า ที่ผ่านมาเงินเฟ้อใน สปป.ลาว ทะยานขึ้นไปประมาณ40% ยอมรับว่ากระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคบ้าง แต่ในแง่ของวิถีชีวิตก็ยังคงดำเนินได้ตามปกติ และผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทก็ยังได้รับการตอบรับที่ดี และยังเห็นโอกาสของการเติบโตที่ดีในอนาคต

 

“จริงๆ แล้วลูกค้าจาก สปป.ลาวก็ยังมีการจับจ่ายเป็นปกติ บางส่วนก็ยังเดินทางข้ามพรมแดนมาซื้อประกันภัยที่ไทย นอกเหนือจากซื้อความคุ้มครองกับบริษัทในสปป.ลาว โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมยังคงเป็นประกันสะสมทรัพย์ แต่ไม่ใช่แบบประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้นๆ ที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย แต่จะเป็นประกันสะสมทรัพย์เพื่อการวางแผนการศึกษาให้บุตรหลานแบบนี้เป็นต้น”

 

สำหรับธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศที่ เมืองไทยประกันชีวิตเข้าไปร่วมลงทุนได้แก่ บริษัท เอสที-เมืองไทย ประกันภัย จำกัด หรือ ST - Muang Thai Insurance Co., Ltd. ตั้งในสปป. ลาว ดำเนินประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ตั้งแต่ปี 2559

 

บริษัท โสวรรณภูมิ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sovannaphum Life Assurance PLC. ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2558 และบริษัท ดารา อินชัวร์รันส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Dara Insurance PLC. ดำเนินธุรกิจประกันวินาสภัยในกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2563

 

บริษัท เอ็มบี เอจิเอิส ไลฟ์ จำกัด หรือ MB Ageas Life Insurance Co., Ltd.โดยร่วมกับ Military Commercial Joint Stock Bank และ Ageas Insurance International N.V. จัดตั้ง “MB Ageas Life" ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจประกันชีวิต ใน เวียดนามตั้งแต่ปี 2560 และตั้งสำนักงานผู้แทน กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตั้งแต่ปี 2557

 

สำหรับในปี 2566 ที่ผ่านมา เมืองไทยประกันชีวิตมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ เบี้ยประกันภัยโรคร้ายแรงเติบโต 70% และ เบี้ยประกันภัยบำนาญเติบโต 13% ตั้งเป้าเบี้ยใหม่เติบโต 20% จากปี 2566 ขณะที่ปี 2566 เบี้ยรับของบริษัทอยู่ที่ ประมาณ 70,000 ล้านบาท ขยายตัว 2% ซึ่งสอดคล้องไปกับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยที่ขยายตัวในระดับนี้เช่นกัน ขณะที่ด้านธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง

 

*เงินกองทุนแกร่ง

ในส่วนของอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2566 สูงกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140% ด้านความแข็งแกร่งและเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่ง ทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและภายในประเทศจาก Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA(tha) ตามลำดับ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินระดับประเทศที่สูงที่สุดพร้อมรับรางวัลการันตีทั้งในด้านองค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการ ในระดับประเทศและระดับสากล สะท้อนถึงการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและความสำเร็จในการดำเนินงานของบริษัทอย่างยั่งยืน

 

รวมถึง ให้ความสำคัญกับ ESG โดย เมืองไทยประกันชีวิต เริ่มต้นได้การลงทุนและเปิดโอกาสให้ลูกค้า Unit-Linked สามารถลงทุนในสินทรัพย์สีเขียว ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ตราสาร ESG (ESG Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมสีเขียวให้แก่พนักงานในองค์กร อาทิ การแยกขยะ การลดใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง การลดใช้กระดาษผ่านกระบวนการดิจิทัลต่างๆ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น

 

เพื่อให้มีการขยายผลสู่สังคมในวงกว้างต่อไป บริษัท ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐานสากล และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสูงสุดอย่างเคร่งครัดเป็นสำคัญ ตามพันธกิจด้านความยั่งยืนที่ว่า “บริษัทฯ ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง