"หมอทวีศิลป์" หวั่นเปิดสถานที่ 3 พ.ค.นี้ ทำป่วยพุ่ง เผย 1 ใน 6 ผู้ติดเชื้อใหม่ มาจากตลาดในกรุง

“หมอทวีศิลป์” หวั่นเปิดสถานที่ 3 พ.ค.นี้ ทำป่วยพุ่ง เผย 1 ใน 6 ผู้ติดเชื้อใหม่ มาจากตลาดในกรุง

โควิด-19 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันใหม่ 6 ราย ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,960 ราย ในจำนวนนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ จำนวน 1 ราย
1.มีประวัติสัมผัส/เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 0 ราย

2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 0 ราย
2.1 ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) 1 ราย

3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 0 ราย

กลุ่มที่ 2 การค้นหาเชิงรุก (active case finding) ในพื้นที่ยะลา บันนังสตา จำนวน 5 ราย

กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าการกักกันในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ (state quarantine) จำนวน 0 ราย

“เมื่อวานนี้ เพิ่งชมไปว่ากลุ่มที่เกิดใหม่ในชุมชนไปแล้ว แต่ว่าวันนี้พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่จากระบบการเฝ้าระวัง เป็นสถานที่ชุมชน คือ ตลาด ผู้ป่วยชายไทยอายุ 64 ปี ตอนนี้ยังไม่มีงานทำ แต่มีประวัติไปตลาดแห่งหนึ่งใน กรุงเทพมหานคร ก่อนจะมีอาการเจ็บป่วย ตรงนี้จึงต้องเน้นย้ำว่ามาตรการของการผ่อนปรนในเรื่องพื้นที่ต่างๆ ตลาดก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เราจะผ่อนปรน ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด ถนนคนเดิน แต่นี่คือ มี 1 ราย ที่เพิ่งติดเชื้อขึ้นมา และมีการรายงานเข้ามาในระบบนี้ ไม่ว่าจะ 1 ราย หรือ 5 ราย จะเป็นกี่รายก็มีความสำคัญทั้งสิ้น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2,960 ราย พบใน 68 จังหวัด กรมควบคุมโรคได้จัดอันดับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 12 ลำดับแรกของประเทศไทย และคิดอัตราส่วนที่ไม่รวมผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกันในสถานที่รัฐบาลจัดให้ ได้แก่ กรุงเทพฯ ผู้ป่วยในพื้นที่ 1,489 ราย อัตราส่วน 26.25 (คนต่อแสนประชากร) ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 12 ราย ภูเก็ต 216 ราย อัตราส่วน 52.25 นนทบุรี 157 ราย อัตราส่วน 12.50 ยะลา ผู้ป่วยในพื้นที่ 118 ราย อัตราส่วน 22.08 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 8 ราย สมุทรปราการ 113 ราย อัตราส่วน 8.46 ชลบุรี ผู้ป่วยในพื้นที่ 87 ราย อัตราส่วน 5.62 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 4 ราย ปัตตานี ผู้ป่วยในพื้นที่รวม 79 ราย อัตราส่วน 10.95 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 12 ราย สงขลา ผู้ป่วยในพื้นที่รวม 44 ราย อัตราส่วน 3.07 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 61 รายเชียงใหม่ 40 ราย อัตราส่วน 2.26 ปทุมธานี 39 ราย อัตราส่วน 3.38 นราธิวาส ผู้ป่วยในพื้นที่รวม 28 ราย อัตราส่วน 3.48 ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกัน 5 ราย นครปฐม 22 ราย อัตราส่วน 2.40 และ อยู่ในระหว่างสอบสวนโรค 39 ราย

“หากดูจากการแต่งสีอัตราป่วยต่อแสนประชากรจะพบว่าสีแดงที่เข้มจะอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และกรุงเทพฯ ประมาณมากกว่า 10 ราย ส่วนสีเขียวอ่อนพบผู้ป่วยประมาณ 1 รายซึ่งอยู่ทั่วประเทศไทย ดังนั้น การรายงานจังหวัดที่แยกตามระยะเวลาจะแยกออกเป็นเพียง 3 สี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การแยกจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันรายใหม่จำแนกตามระยะเวลาการรายงาน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 สีส้มอ่อน มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 42 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ พะเยา พิษณุโลก ลำปาง เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา สกลนคร สุรินทร์ อุดรธานี อุบลราชธานี กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี

กลุ่มที่ 2 สีเหลืองอ่อน ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 26 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก ราชบุรีสระบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี เชียงราย เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

กลุ่มที่ 3 สีเขียว ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน มีจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร น่าน พิจิตร บึงกาฬ ระนอง และสตูล (เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่รัฐบาลจัดไว้ state Quarantine)