3BBIF ปรับโครงสร้างเงินกู้ยืม ชำระหนี้เงินกู้ให้ BBL บางส่วนก่อนกำหนด
#3BBIF #ทันหุ้น-บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัทฯ”) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า กองทุนได้ทำการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือกับธนาคารกรุงเทพ โดยกองทุนได้กู้ยืมเงินจากธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (“SMBC”) (ซึ่งมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัทฯ) มาชำระหนี้เงินกู้ยืมคงเหลือให้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BBL บางส่วนก่อนกำหนด มีรายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 บริษัทฯ ได้ดำเนินการให้กองทุนเข้าทำสัญญากู้ยืมเงินกับ SMBC (“สัญญากู้ยืมเงิน SMBC”) มีเงินกู้จำนวน 5,450,000,000 บาท และ อัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% กองทุนได้เบิกเงินกู้จำนวนดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพก่อนกำหนด ในวันที่ 31 มกราคม 2568 และธนาคารกรุงเทพได้ปลดหลักประกันทางธุรกิจ ทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรให้กองทุน และกองทุนจะนำหลักประกันทางธุรกิจทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรที่ธนาคารกรุงเทพปลดให้ดังกล่าวไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงิน SMBC ต่อไป
เมื่อกองทุนได้ชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพบางส่วนก่อนกำหนดดังกล่าวข้างต้นแล้ว ธนาคารกรุงเทพได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้คงเหลือลงจากเดิม MLR เหลือ MLR - 2.90%
ในการชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพก่อนกำหนดดังกล่าวข้างต้น กองทุนได้ชำระดอกเบี้ยคำนวณจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2568 เป็นเงิน 65,937,534.25 บาท และชำระค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนดในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเงินกู้คิดเป็นเงิน 163,500,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ และ สำหรับการกู้ยืมเงินจาก SMBC นั้น กองทุนได้ชำระค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้(Front-end Fee) จำนวน 38,150,000 บาท ให้แก่ SMBC โดยกองทุนได้นำกระแสเงินสดของกองทุนไปชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนด และค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ดังกล่าว
จากการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนที่กล่าวข้างต้น กองทุนเหลือเงินกู้ค้างอยู่กับธนาคารกรุงเทพจำนวน 5,450,000,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย MLR –2.90% และมีหนี้เงินกู้อยู่กับ SMBC จำนวน 5,450,000,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% รวมเป็นเงินกู้ทั้งสิ้นจำนวน 10,900,000,000 บาท การปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนนี้ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์และความยั่งยืนในระยะยาวของกองทุน
ก่อนหน้านี้ กองทุนได้เข้าทำสัญญากู้ยืมเงินกับธนาคารกรุงเทพ ตามสัญญากู้ยืมเงิน ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562(“สัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ”) และกองทุนได้นำทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 558,000 คอร์กิโลเมตร ไปเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อประกันการชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ โดยกองทุนได้ทยอยชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย (อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MLR ซึ่งณ ปัจจุบัน MLR เท่ากับ ร้อยละ 6.9) ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพเรื่อยมา จนกระทั่ง ณ สิ้นปี 2567 เหลือต้นเงินกู้จำนวน 10,900,000,000 บาท