อิสราเอลผวา! ยุงมรณะเริ่มระบาด โดนกัดเสี่ยงอัมพาต-เสียชีวิต

วันนี้ (7ก.ย.63) กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (MoEP) อิสราเอล รายงานพบยุงที่ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile) ในเมืองชายฝั่งเทลอาวีฟ เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ โดยนับเป็นครั้งแรกหลังจากปี 2005 ที่มหานครเทลอาวีฟพบยุงติดเชื้อไวรัสนี้ ซึ่ง ไวรัสเวสต์ไนล์ ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก จากผู้ป่วยหญิงคนหนึ่งในอำเภอเวสต์ไนล์ ที่ประเทศยูกันดา เมื่อ พ.ศ.2480 จากนั้นได้ระบาดไปหลายทวีป

อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานพบยุงร้ายนี้ในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือและตอนใต้ของอิสราเอล

ไวรัสเวสต์ไนล์ ซึ่งมียุงรำคาญ (Culex) และยุงลายเสือ (Asian tiger) เป็นพาหะนำโรค จะทำให้ผู้ถูกกัดติดเชื้อ และอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

คนส่วนใหญ่ที่ถูกยุงชนิดนี้กัด โดยมาจากยุงไปกัดนกที่ติดเชื้อ (ไข้หวัดนก)มาก่อนหน้า   

อาการของโรคกว่าร้อยละ80 มักจะไม่แสดงอาการ   หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ปวดศีรษะ เป็นไข้ และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ทั้งนี้ มีคนเพียงส่วนน้อยที่โดนกัดแล้วเชื้อลุกลามไปถึงสมอง จนนำไปสู่การเป็นอัมพาต สมองถูกทำลาย และเสียชีวิต  หรือเป็นที่รู้จักว่า เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอย่างรุนแรงในมนุษย์ ซึ่งระยะฟักตัวของโรค โดยเฉลี่ย 5 - 15 วัน

การค้นพบไวรัสดังกล่าวในเทลอาวีฟเกิดขึ้นระหว่างการทดสอบสุ่มตัวอย่างตามปกติของกระทรวงตามแนวแม่น้ำยาร์กอน ใกล้เขตแดนเทลอาวีฟกับเมืองรามัตกัน

หลังการค้นพบ กระทรวงได้เรียกร้องให้เทศบาลนครทั้งสองแห่งเพิ่มระดับการตรวจสอบ และอนุมัติให้ดำเนินการกำจัดยุงได้ในกรณีจำเป็น

กระทรวง ยังแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวัง โดยเฉพาะในยามขาดแคลนวัคซีนเช่นนี้  เพราะไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เพียงรักษาตามอาการหรือใช้การรักษาแบบประคับประคอง

ดังนั้น การป้องกันอันตรายจากยุงตั้งแต่แรกเริ่มเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำลายวงจรการแพร่กระจายของโรคสู่มนุษย์

ไวรัสเวสต์ไนล์ สามารถติดต่อได้ระหว่างสัตว์และคน สำหรับประเทศไทย ยังไม่พบ รายงานของโรคนี้ แต่ต้องทำการเฝ้าในระยะต่อไป 

ภาพประกอบข่าว