โควิด: เมลเบิร์นยังมีพวกดื้อล็อกดาวน์เข้ม คนไม่สวมแมสก์จับตำรวจโขกหัวกับพื้น
โควิด: เมลเบิร์นยังมีพวกดื้อล็อกดาวน์เข้ม - วันที่ 4 ส.ค. เอบีซี และ บีบีซี รายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ออสเตรเลีย ในนครเมลเบิร์น เมืองอันดับสองของรัฐวิกตอเรีย ยังน่าเป็นห่วง แม้เพิ่งยกระดับล็อกดาวน์เป็นระยะที่ 4 ประกาศภาวะภัยพิบัติ และกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) หลังการระบาดรอบที่สอง จนยอดผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้น ด้วยตัวเลขล่าสุด 12,335 คน เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 380 คน ส่วนเสียชีวิตคงที่ 147 ราย จากยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ 18,729 คน เสียชีวิต 232 ราย
EPA
อย่างไรก็ตาม ชาวนครเมลเบิร์นกลับฝ่าฝืนมาตรการเข้มงวด ที่บังคับสวมหน้ากากอนามัยและอยู่ในบ้านตลอดเวลาเพื่อลดการแพร่เชื้อ อ้างว่าตัวเอง อยู่เหนือกฎหมาย บางส่วนถึงขั้นลงไม้ลงมือตำรวจที่ลาดตระเวนตามถนนเพื่อไม่ให้ประชาชนออกนอกบ้านโดยไร้เหตุจำเป็น กลายเป็นอันตรายเสี่ยงต่อชีวิตตำรวจเพิ่มขึ้น
เชน แพตตอน ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรีย กล่าว่า ตำรวจรัฐวิกตอเรียเห็นการเกิดขึ้นมาของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองเป็น ขบวนการอธิปไตยปวงชน (sovereign citizens) ต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เชื่อมั่นในความชอบธรรมของรัฐบาล และบ่อยครั้งมักโจมตีว่า การออกคำสั่งเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน (public orders) เป็นการริดรอนสิทธิของตัวเอง
EPA
พร้อมเปิดเผยตัวอย่างที่ประชาชนทำร้ายเจ้าหน้าที่ว่า พลเมืองหญิงอายุ 38 ปี จับศีรษะตำรวจหญิงโขกกับพื้นคอนกรีตซ้ำๆ ภายในศูนย์การค้า ระหว่างทำร้ายและต่อสู้กับตำรวจนายอื่นๆ หลังไม่พอใจที่ตำรวจหญิงเข้ามาขัดขวางเพราะไม่สวมหน้ากากอนามัย ถือเป็นการสะท้อนความท้าทายรูปแบบหนึ่งที่ตำรวจกำลังเผชิญ
นอกจากนี้ ประชาชนก่อกวนตำรวจตามด่านตรวจและไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างน้อย 4 ครั้ง ตำรวจต้องทุบกระจกรถและดึงคนออกมาเพื่อแจ้งข้อมูลกับเรา” แพตตอนกล่าว
EPA
ด้าน นายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย แถลงข่าวว่า กองทัพออสเตรเลีย (Australian Defence Force: ADF) ดำเนินการสุ่มเคาะประตูบ้าน 3,000 หลัง ที่มีผู้ติดเชื้อและควรกักตัวในบ้าน ปรากฏว่า มากกว่า 800 หลัง ไม่พบผู้ติดเชื้อที่ควรกักตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง
"ชาวรัฐวิกตอเรียส่วนใหญ่ปฏิบัติตามสิ่งถูกต้องแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่คนส่วนน้อยที่รู้เรื่องอย่างดีแต่จงใจทำผิดและให้ชีวิตคนอื่นตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย" นายแอนดรูว์สกล่าวและประกาศโทษปรับผู้ติดเชื้อและได้รับคำสั่งกักตัวแต่ไม่ปฏิบัติตาม 4,569 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (101,435 บาท) แต่ในกรณีทำผิดซ้ำซากและร้ายแรง โทษปรับจะเพิ่มเป็น 20,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (444,014 บาท)
THE STANDARD AUSTRALIA
ทั้งนี้ ล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ของนครเมลเบิร์น ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. กำหนดให้ประชาชนออกนอกบ้านได้ต้องไปซื้อของ และออกกำลังกาย (ไม่ไกลจากบ้าน 5 กิโลเมตร และไม่เกินครั้งละ 1 ชั่วโมง) ดูแลผู้ป่วยจำเป็น หรือปฏิบัติงานแนวหน้า
ส่วนเคอร์ฟิวกำหนดเวลาห้ามออกนอกบ้าน 20.00 น. ถึง 05.00 น. ยกเว้นผู้ทำงาน ผู้เข้ารับหรือให้การดูแลผู้ป่วย และต้องมีใบอนุญาตด้วย อย่างไรก็ตาม หลายคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว เช่น จัดปาร์ตี้แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) และดื่มเหล้ากินฟาสต์ฟู้ดนอกเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โควิด: รัฐวิกตอเรียประกาศ “ภาวะภัยพิบัติ-เคอร์ฟิว” เมลเบิร์น หลังป่วยพุ่งอีก671คน