WARRIX ยืนเหนือจอง รุกอาเซียนดันงบพุ่งต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นของ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX ที่เข้าทำการซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เปิดการซื้อขายที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือคิดเป็น 27.77% จากราคาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) ระดับ 6.30 บาท

** แกร่งเหนือจอง

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือWARRIX เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่สามารถเปิดเหนือราคาไอพีโอได้นั้นน่าจะมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อโครงสร้างของธุรกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันจุดเด่นของบริษัทนั้นคือ การออกแบบเสื้อผ้า และฟังก์ชั่นเสื้อผ้าที่สวยโดดเด่นและทันสมัย และสามารถล้ำเทรนด์ของเสื้อกีฬาในระดับโลก เนื่องจากผู้บริหารมีประสบการณ์ในด้านของการจัดซื้อผ้าให้กับแบรนด์ดัง ทำให้เข้าใจถึงเทรนด์และการคัดเลือกเนื้อผ้า ประกอบกับการที่บริษัทมีไลเซนส์ทำให้การแข่งขัน ซึ่งการขายสินค้าไลเซนส์ได้ส่งผลมาสู่สินค้านอนไลเซนส์ค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ WARRIX แบ่งเป็น การผลิตสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ (ไลเซนส์) ให้กับทีมฟุตบอลต่างๆ ประมาณ 20% และที่เหลือเป็นสินค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

** สยายปีกต่างแดน

สำหรับผลประกอบการปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ประมาณการไว้ราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากธุรกิจมีแผนขยายในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเทศในแถบอาเซียน ซึ่งควบไปกับการทำตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

"ปีหน้าจากฐานเงินทุนที่แข็งยิ่งขึ้น หลังไอพีโอ ทำให้เรามีความสามารถในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ ที่มองเป็นโอกาส และมีขนาดของอุสาหกรรมที่มากกว่าในไทยที่ราว 3 หมื่นล้านบาทต่อไป รวมทั้งมองหาโอกาสในการไปร่วมมือกับศิลปิน เพื่อผลิตเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ หวังทำตลาดธุรกิจอีกทางหนึ่ง"

ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และสำนักงานบริเวณถนน พระราม 9 ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียน

อนึ่ง ปัจจุบัน WARRIX นับเป็นประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ “วอริกซ์” และอุปกรณ์กีฬา โดยบริษัทได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าฟุตบอลทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน สินค้าเสื้อผ้าของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้า Licensed Product ประกอบด้วย สินค้าเกี่ยวกับกีฬาทีมชาติ สินค้าสโมสรฟุตบอล เป็นต้น และสินค้า Non-Licensed Product ประกอบด้วย สินค้าคอลเล็กชั่น สินค้าคลาสสิค สินค้าทำตามคำสั่ง เป็นต้น ในปี 2564 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากสินค้า Non-Licensed Product และสินค้า Licensed Product คิดเป็น 78:22%

** ช่องทางขายสินค้า

ขณะที่บริษัทมีช่องทางจำหน่าย ได้แก่ ร้านค้าของบริษัท ห้างสรรพสินค้า งานโครงการ ช่องทางออนไลน์ สัญญาตามสัญญาสนับสนุน เป็นต้น บริษัทมีการจัดซื้อสินค้าเสื้อผ้าจากผู้ผลิตภายในประเทศประมาณ 7 ราย โดยมีการควบคุมคุณภาพและมีศักยภาพในการส่งมอบสินค้าให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในปี2563 บริษัทได้เริ่มขยายสู่การให้บริการด้านสุขภาพในเขตกรุงเทพฯ โดยเปิดคลินิกกายภาพบำบัด บริเวณสเตเดียมวัน และเดือนตุลาคมปี 2565 ได้เปิดศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์