อนามัยโลกเคลียร์ปม โควิด-19 ระบาด

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนนี้ นาง มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมทางด้านเทคนิคขององค์การอนามัยโลก อาศัยบัญชีทวิตเตอร์ขององค์การอนามัยโลก ชี้แจงทำความกระจ่างเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ที่กลายเป็นข่าวไปทั่วโลกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสก่อโรคโควิด-19 หลังจากแวดวงวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญนอกองค์การออกมาให้ความเห็นแย้งต่อคำให้สัมภาษณ์ที่ว่า การแพร่ระบาดจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการของโรคโควิด-19 นั้น “หายากมาก”

โดยผู้เชี่ยวชาญหลายรายรวมทั้ง ศาสตราจารย์กิลแบร์ เดอเรย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากโรงพยาบาล ปิตี-ซัลเปตริแยร์ ที่ออกมาโจมตีองค์การอนามัยโลกในประเด็นนี้ว่าเป็นข้อสรุปที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับ นายเลียม สมีท ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาคลินิคประจำสำนักสุขอนามัยและเวชาศาสตร์เขตร้อนลอนดอน ซึ่งชี้ว่า น่าประหลาดใจที่องค์การอนามัยโลกสรุปดังกล่าว เนื่องจากแม้ว่ายังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด แต่การแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการนั้นอยู่ประมาณ 30-50 เปอร์เซ็นต์ของเคสผู้ป่วยทั้งหมด งานศึกษาวิจัยที่ดีที่สุดในเวลานี้ ชี้ให้เห็นว่า ราวครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับเชื้อจากผู้ที่ไม่แสดงอาการ หรือได้รับเชื้อมาก่อนที่ผู้แพร่เชื้อจะแสดงอาการ แสดงให้เห็นว่าการแพร่เชื้อโดยพาหะที่ไม่แสดงอาการป่วยนั้น ไม่ได้หายากอย่างที่องค์การอนามัยโลกสรุป

นางฟาน เคอร์โคฟ ชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านทวิตเตอร์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดของผู้สื่อข่าว ตนใช้คำพูดว่า “หายากมาก” จริง แต่เป็นการใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการศึกษาที่เกี่ยวกับเรื่องการแพร่เชื้อโดยไม่แสดงอาการนั้นมีอยู่น้อยมาก เพียง 2-3 ชิ้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า การแพร่เชื้อโดยไม่แสดงอาการนั้น เป็นสิ่งหายากแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นก็ย้ำด้วยว่า คำกล่าวของตนเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ไม่ได้เป็นนโยบายหรือข้อสรุปขององค์การอนามัยโลกแต่อย่างใด