รีเซต

สูญไปหลักล้าน ตามหาคนก่อเหตุมานาน ติดวงจรปิดถึงรู้ เพื่อนรักทำกันได้ลงคอ

สูญไปหลักล้าน ตามหาคนก่อเหตุมานาน ติดวงจรปิดถึงรู้ เพื่อนรักทำกันได้ลงคอ
ข่าวสด
26 กันยายน 2563 ( 13:08 )
60
สูญไปหลักล้าน ตามหาคนก่อเหตุมานาน ติดวงจรปิดถึงรู้ เพื่อนรักทำกันได้ลงคอ

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.ระยอง รับแจ้งความจาก นางวราพร ภัทรธนวดี อายุ 48 ปี หลังจับได้ว่าเพื่อนสนิท ชื่อ น.ส.ทิวาภรณ์ อายุ 39 ปี แอบขโมยเงินสดและทองรูปพรรณ ยาวนานกว่า 3 ปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยมีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิดในร้านบันทึกภาพ

 

นางวราพร กล่าวว่า น.ส.ทิวาภรณ์ เป็นเพื่อนกันนานกว่า 3 ปี โดย น.ส.ทิวาภรณ์ ประกอบอาชีพเป็นพนักงานลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จุมากินข้าวที่บ้านทุกวัน ซึ่งเป็นร้านขายชุดกีฬา ตนไม่คิดว่าจะทำกันได้ หลังมีทรัพย์สินหายไปบ่อยครั้ง จึงเฝ้าระวัง

 

เมื่อตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบ น.ส.ทิวาภรณ์ เข้ามาหยิบเงินในกระเป๋า แล้วเดินเข้าห้องน้ำ แล้วหยิบเงินสดไปจำนวน 5,000 บาท และ อีกเหตุการณ์ เมื่อล่าสุดวันที่ 24 ก.ย. หยิบเงินสดไปจำนวน 7,000 บาท ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทุกภาพไว้ได้

 

นางวราพร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเงินในกระเป๋าตนหายอยู่เป็นประจำ วันละ 1,000 บาท และสร้อยคอทองคำหายไปอีก รวมประมาณ 20 บาท แต่ไม่มีหลักฐาน เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดมีอายุแค่ 1 สัปดาห์

 

แต่ก็สงสัย น.ส.ทิวาภรณ์ มานาน เป็นคนเดียวที่เข้าออกบ้านเป็นประจำ และยังรู้ที่เก็บซ่อนทองและกระเป๋าเงิน แต่ไม่มีหลักฐานกล่าวหาเขาได้ มาครั้งนี้มีวงจรปิด ที่ได้บันทึกภาพไว้อย่างชัดเจน จึงมาแจ้งความดำเนินคดี รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกที่ไว้ใจมาก ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะมาทำกันได้ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

ต่อมา พ.ต.ท.คำพันธ์ ขวัญทอง สว.สส.สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วยชุดสืบสวน เชิญตัว น.ส.ทิวาภรณ์ มาทำการสอบสวน โดยให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุ ลักทรัพย์เงินสด และทองรูปพรรณของ นางวราพร จริง และได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากตนมีความขัดสนเรื่องการเงิน จึงจำเป็นต้องลงมือก่อเหตุ

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง