รีเซต

เตือนภัย! สาวพนง.โรงแรม โดนแก๊งมิจฉาชีพ สวมรอยตำรวจ หลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี 7 หมื่น

เตือนภัย! สาวพนง.โรงแรม โดนแก๊งมิจฉาชีพ สวมรอยตำรวจ หลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี 7 หมื่น
มติชน
11 มกราคม 2565 ( 14:27 )
310
เตือนภัย! สาวพนง.โรงแรม โดนแก๊งมิจฉาชีพ สวมรอยตำรวจ หลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี 7 หมื่น

สาวพนักงานโรงแรมที่กระบี่ ถูกแก๊งมิจฉาชีพสวมรอยเป็นตำรวจ และ DSI หลอกว่าตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ก่อนหลอกให้เหยื่อโอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี

 

วันที่ 11 ม.ค. น.ส.เกศสุนี สุขาวาปี อายุ 35 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ หอบหลักฐานยื่นให้แก่ผู้สื่อข่าว หลังจากถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกว่าเธอตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินจากขบวนการค้ายาเสพติด โดยหลอกให้เธอโอนเงินทั้งหมดในบัญชีไปให้ตรวจสอบ และเธอหลงเชื่อโอนเงินจำนวน 71,102 บาท ให้แก่แก๊งดังกล่าว

 

 

กระทั่งสงสัยว่าตัวเองน่าจะถูกหลอก เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง ให้ติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพ แต่ผ่านมา 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า

 

 

น.ส.เกศสุนี เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564 มีบุคคลปริศนาติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ 099-0020029 บอกว่า ตนมีหนี้บัตรเครดิตไปรูดซื้อของในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ตอนแรกตนก็แปลกใจเพราะไม่เคยทำบัตรเครดิตมาก่อน จากนั้นคนที่แอบอ้าง บอกให้ตนคุยสายกับอีกคนเป็นผู้ชาย อ้างว่าเป็นตำรวจของ สภ.เมืองพิษณุโลก ให้ตนแจ้งเลขบัตรประชาชน และหลักฐานบัญชีธนาคาร เมื่อแจ้งไปคนที่อ้างเป็นตำรวจบอกกับตนมาว่า ตนเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด

 

ตอนแรกตนตกใจมาก เพราะตนอยู่ที่กระบี่ตลอด ไม่เคยเดินทางไปพิษณุโลก และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด จึงถามไปว่าตนต้องทำอย่างไรต่อ คนที่แอบอ้างก็บอกว่าให้ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการให้ จนท.ตรวจสอบความเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร พร้อมทั้งสอบถามว่าตนมีบัญชีธนาคารกี่บัญชี และให้ตนโอนเงินทั้งหมดในบัญชีไปที่บัญชีกลางของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะกันเธอไว้เป็นพยาน

 

 

ด้วยความตกใจและเชื่อว่าปลายสายเป็นตำรวจ เพราะแชตไลน์ที่ติดต่อกันก็ขึ้นโลโก้ของตำรวจ จึงตกลงให้ตรวจสอบบัญชีธนาคาร

 

 

จากนั้นแก๊งมิจฉาชีพก็ส่งลิงก็ของเว็บไซต์เข้ามาให้ตนในแชตไลน์ เมื่อกดเข้าไปก็ขึ้นเป็นชื่อเว็บของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีเอกสารในเว็บเป็นหมายเรียกมีชื่อตนปรากฎอยู่ ตนก็ยิ่งหลงเชื่อว่าน่าจะเป็นหน่วยงานของตำรวจจริง จึงยอมทำตามทุกอย่างเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ทางคนที่อ้างเป็นตำรวจ ก็บอกให้ตนโอนเงินเข้าไปบัญชีกลาง โดยอ้างว่าเมื่อตรวจสอบเสร็จภายใน 2 ชม.จะโอนเงินกลับมาให้ ตนจึงโอนเงินเก็บไปทั้งหมดกว่า 7 หมื่นบาท เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อเจ้าของบัญชีคือนายเด่นพงษ์ วังสาร

 

หลังจากนั้นแก๊งมิจฉาชีพ ก็บอกกับตนว่าให้หาเงินประกันตัวไว้ 30,000 บาท ให้โอนไปให้ เพื่อจะดำเนินการให้ ตนก็บอกว่าตนโอนไปให้หมดแล้ว ไม่เหลือเงินแล้ว ตนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับหัวหน้าที่ทำงาน ทางหัวหน้าก็บอกว่าตนน่าจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกแล้ว จึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.อ่าวนาง แต่ผ่านมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเงินเหลือเลย เงินที่โอนไปทั้งหมดเป็นเงินเก็บจากการทำงานทั้งสิ้น จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง