รีเซต

มารู้จักความหมายที่แท้จริงของ "วันคริสต์มาส" ทำไมต้องฉลองวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี

มารู้จักความหมายที่แท้จริงของ "วันคริสต์มาส" ทำไมต้องฉลองวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี
TNN ช่อง16
24 ธันวาคม 2568 ( 18:36 )
11

"วันคริสต์มาส" (Christmas) เป็นวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ที่ฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ ถือเป็นวันหยุด และเป็นวันที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญมาก วันคริสต์มาสไม่ได้เป็นเพียงวันเฉลิมฉลองทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นวันที่มีความหมายในด้านต่างๆ เช่น การรวมตัวของครอบครัว การแสดงความรัก และการให้ต่อกัน โดยเฉพาะการให้ของขวัญแก่คนที่เรารัก 


ในแง่ของความหมายทางศาสนา วันคริสต์มาสเป็นวันที่คริสเตียนทั่วโลกเชื่อว่า พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ได้มาเกิดในโลกเพื่อมอบความรักและการอภัยโทษให้แก่มนุษยชาติ การฉลองวันคริสต์มาสจึงเป็นการระลึกถึงการประสูติของพระเยซูและการที่พระองค์นำสันติสุข และความรอดมาสู่โลก 


นอกจากนี้ วันคริสต์มาสยังเป็นวันหยุดที่เต็มไปด้วยกิจกรรมทางสังคม เช่น การตกแต่งต้นคริสต์มาส, การแลกของขวัญ, และการจัดเลี้ยงต่างๆ ในหลายประเทศ วันคริสต์มาสกลายเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนใช้ในการแบ่งปันความสุข และการให้ ความหมายของวันคริสต์มาสจึงมีทั้งในด้านศาสนาและสังคมที่เชื่อมโยงกับการให้ความรักและความหวัง 


ทำไมจึงฉลองคริสต์มาสวันที่ 25 ธันวาคม

การฉลองวันคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมมีต้นกำเนิดมาจากการผสมผสานระหว่างความเชื่อทางศาสนาคริสต์ และประเพณีทางวัฒนธรรมในยุคโรมันโบราณ ที่วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันที่มีความสำคัญในหลายวัฒนธรรมและศาสนา 

การเลือกวันที่ 25 ธันวาคม 

ในทางศาสนาคริสต์ ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ได้แน่ชัดว่าพระเยซูคริสต์เกิดในวันที่ 25 ธันวาคม แต่การเลือกวันที่นี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เมื่อพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 1 (Pope Julius I) ตัดสินใจเลือกวันที่ 25 ธันวาคมให้เป็นวันคริสต์มาส เพื่อให้ตรงกับวันสำคัญในปฏิทินของโรมัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นโรมันฉลองเทศกาล "Sol Invictus" หรือ "วันเกิดของพระอาทิตย์ที่ไม่แพ้" (Birth of the Unconquered Sun) ที่ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นวันที่เริ่มต้นของการกลับมาของแสงอาทิตย์ในช่วงฤดูหนาว 


 การเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมัน


วันที่ 25 ธันวาคมยังเป็นวันสำคัญในเทศกาล "Saturnalia" ของโรมันโบราณ ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวและการบูชาเทพเจ้า Saturn ที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ และการเฉลิมฉลองโดยมีการให้ของขวัญ และการรวมตัวกันของครอบครัวและเพื่อนฝูง เทศกาลเหล่านี้ได้รับการเฉลิมฉลองในช่วงฤดูหนาว 


การเลือกวันที่ 25 ธันวาคมจึงมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับเทศกาลโรมันเหล่านี้ ซึ่งทำให้คริสต์ศาสนาสามารถแพร่หลายได้ง่ายขึ้นในสังคมโรมันที่มีการบูชาเทพเจ้าหลายองค์ โดยที่คริสต์มาสสามารถแทนที่เทศกาลเหล่านั้นในเชิงสัญลักษณ์ 


การเลือกช่วงเวลาฤดูหนาว


ในบางความเชื่อของคริสเตียน วันที่ 25 ธันวาคม ถูกเลือกเพื่อเป็นการระลึกถึงการประสูติของพระเยซูที่เป็น "แสงสว่างแห่งโลก" ในช่วงที่มีความมืดมิดที่สุดของปี (ฤดูหนาว) การเกิดของพระเยซูจึงถูกมองว่าเป็นการนำแสงสว่างมาสู่โลกในช่วงเวลาของความมืด 


ดังนั้น การฉลองวันคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมจึงมีทั้งความเชื่อทางศาสนาและการเลือกเวลาที่เชื่อมโยงกับเทศกาลของวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่มีอยู่ในยุคนั้น เพื่อช่วยให้การเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นไปได้ง่ายขึ้นและมีความหมายที่ลึกซึ้งในการนำแสงสว่างมาสู่โลก 


  ทำไมต้องพูดคำว่า"Merry Christmas"


สำหรับ คำว่า "Merry Christmas" มาจากประเพณีทางภาษาอังกฤษที่ใช้คำว่า "Merry" แทนคำว่า "Happy" ในการอวยพรในช่วงเทศกาล หรือโอกาสพิเศษต่างๆ คำว่า "Merry" หมายถึง ความสนุกสนาน สดใส หรือเต็มไปด้วยความสุข ซึ่งเหมาะสมกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง และการรวมตัวในวันคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยความรักและความสุขค่ะ 


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม