เจ้าท่าอยุธยาจัดระเบียบเดินเรือป้องกันอุบัติเหตุ
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างแล้ว 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอบางปะหัน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำสายต่างๆ ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มนอกแนวคันกันน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำป่าสัก
ด้าน นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา เผยว่า ได้มีการเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มีเจ้าหน้าที่ประจำการณ์ 18 นาย พร้อมสปีดโบ๊ต 2 ลำ เรือท้องแบน 1 ลำ เจ็ทสกี 1 ลำ รถยนต์ 3 คัน พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลาก
ส่วนเรื่องการจัดการสัญจรทางน้ำ ได้กำชับให้เรือลากจูงในแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มความระมัดระวัง สำหรับเรือหนักที่วิ่งสวนทางน้ำให้ปรับเหลือ 3 พ่วง ซึ่งทางเจ้าท่าจะต้องเข้าไปควบคุมจัดระเบียบการจราจรทางน้ำ ซึ่งคาดว่าในอีกไม่กี่วันทางเขื่อนเจ้าพระยาจะปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำสูงกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำยิ่งขึ้นสูงและไหลแรง จึงได้เน้นย้ำผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือทุกแห่งคุมเข้มมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เผยถึงการเตรียมความพร้อมป้องกันโบราณสถานจากอุทกภัย โดยเฉพาะโบราณสถานสำคัญ 2 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำเจ้าพระยา คือ วัดไชยวัฒนาราม กับ วัดธรรมาราม ล่าสุดมีการตั้งกำแพงกันน้ำแบบเก็บได้ รวมทั้งกระสอบทราย และผ้าใบเสริมแนวกันน้ำให้พร้อม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจเช็คอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้อยู่ในช่วงติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับทางจังหวัด จัดเวรยามเฝ้าติดตามความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนตั้งรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ที่มาภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา