เฟดเสียงแตก ลดดอกเบี้ยเพิ่ม ยังยากจะเกิดขึ้นจริง

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐฯ ความเห็นล่าสุดจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายสาขาเผยให้เห็นความแตกแยกที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย โดยมีทั้งฝ่ายที่ต้องการคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และฝ่ายที่กังวลว่าการตรึงดอกเบี้ยสูงนานเกินไปจะบั่นทอนตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังสะท้อนว่าความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ค่อนข้างจำกัด
ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา ระบุว่า แม้สนับสนุนการลดดอกเบี้ย 0.25% ล่าสุด แต่ยังไม่เห็นความจำเป็นต้องลดอีกในปีนี้ โดยย้ำว่าเงินเฟ้อยังห่างไกลจากเป้าหมาย 2% ของเฟด ขณะที่อัลแบร์โต มูซาเลม ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ชี้ว่าการลดดอกเบี้ยรอบที่ผ่านมาเป็น “มาตรการป้องกันล่วงหน้า” เพื่อค้ำจุนตลาดแรงงาน แต่พื้นที่สำหรับการผ่อนคลายเพิ่มเติมมีจำกัด เช่นเดียวกับเบธ แฮมแม็ค ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่เน้นว่าต้องระมัดระวัง เพราะแรงกดดันเงินเฟ้อยังสูง แม้ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
ในอีกด้านหนึ่ง สตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งและเป็นเสียงคัดค้านคนเดียวที่เรียกร้องให้ลดมากกว่านี้ในการประชุมเดือนกันยายน กลับมองว่าอัตราดอกเบี้ยควรต่ำกว่าปัจจุบันเกือบ 2% เนื่องจากระดับที่เข้มงวดเกินไปกำลังเสี่ยงต่อการจ้างงาน เช่นเดียวกับโทมัส บาร์คิน ประธานเฟดริชมอนด์ ที่เตือนว่าภาษีนำเข้าและข้อจำกัดกำลังแรงงานยังคงเป็นแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
Stifel วิเคราะห์ว่า ความเห็นที่แตกแยกในเฟดเป็นผลจากความพยายามหาจุดสมดุลระหว่าง “การกดเงินเฟ้อ” และ “การปกป้องตลาดแรงงาน” ซึ่งทำให้เกณฑ์การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมสูงขึ้นอย่างมาก โดยโอกาสที่จะผ่อนคลายในปีนี้จึงมีจำกัด แม้ไม่ปิดประตูไปเลยก็ตาม ขณะที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ย้ำว่าการลดดอกเบี้ยล่าสุดเป็นเพียง “การลดเพื่อรักษาสภาพ” และยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจำเป็นต้องลดอีกหรือไม่
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
