สหรัฐฯ - อิหร่าน ปะทะคารมเดือดกลางที่ประชุม UNSC รื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์

ทั้งสองประเทศได้จัดการเจรจานิวเคลียร์มาแล้ว 5 รอบ ก่อนเกิดสงครามเป็นเวลา 12 วันระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลในเดือนมิถุนายน ซึ่งสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมด้วยการโจมตีเป้าหมายที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านด้วย
การเจรจาดังกล่าวประสบอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมบนแผ่นดินอิหร่าน ซึ่งชาติตะวันตกต้องการให้ยุติเพื่อลดความเสี่ยงในการนำไปใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่อิหร่านปฏิเสธอย่างหนักแน่น
มอร์แกน ออร์ทากัส รองทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงว่า “สหรัฐฯยังคงพร้อมสำหรับการเจรจาอย่างเป็นทางการกับอิหร่าน แต่ก็ต่อเมื่ออิหร่านพร้อมสำหรับการเจรจาโดยตรงและมีความหมาย อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังบางประการสำหรับข้อตกลงใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องไม่มีการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมภายในอิหร่าน ซึ่งยังคงเป็นหลักการของเรา”
ด้านเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ อามีร์ ซาอีด อิราวานี กล่าวต่อที่ประชุมว่า สหรัฐฯ ไม่ได้แสวงหาการเจรจาที่เป็นธรรม โดยการยืนกรานในนโยบายไม่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเลย
เขากล่าวอ้างถึงสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ หรือเอ็นพีที (NPT) ว่า “เรายินดีต่อการเจรจาที่เป็นธรรมและมีความหมาย แต่การยืนกรานนโยบายไม่ให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมนั้น ขัดต่อสิทธิของเราในฐานะประเทศภาคีเอ็นพีที และสะท้อนว่าสหรัฐฯ ไม่ได้มุ่งสู่การเจรจาที่เป็นธรรม พวกเขาต้องการกำหนดเจตนาที่วางไว้ล่วงหน้าให้แก่อิหร่าน แต่อิหร่านจะไม่ยอมก้มหัวต่อแรงกดดันหรือการข่มขู่ใด ๆ”
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา สหประชาชาติได้รื้อฟื้นมาตรการห้ามส่งออกอาวุธและการคว่ำบาตรอื่น ๆ ต่ออิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ หลังจากกระบวนการที่เรียกว่า “สแนปแบ็ก” (snapback) หรือกลไก “ดึงการคว่ำบาตรของยูเอ็นกลับมาใช้ใหม่” ซึ่งถูกกระตุ้นโดยชาติมหาอำนาจยุโรป แต่รัสเซียและจีนคัดค้านการดำเนินการดังกล่าว
สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการสแนปแบ็กในคณะมนตรีความมั่นคง จากข้อกล่าวหาว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่าไม่ได้แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น
ทั้งนี้ ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ได้รับการรับรองไว้ในมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ผ่านในปีเดียวกัน โดยคณะมนตรี ซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศ จะประชุมกันปีละสองครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการตามมติดังกล่าว
การบรรยายสรุปเมื่อวานนี้ถูกร้องขอโดยสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สหรัฐฯ, เดนมาร์ก, กรีซ สโลวีเนีย และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม รัสเซียและจีนโต้แย้งว่าบทบัญญัติทั้งหมดในมติดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม และได้คัดค้านการจัดประชุมครั้งนี้ แม้ท้ายที่สุดการประชุมจะดำเนินไปตามแผนก็ตาม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
