สตาร์ทอัพเปิดศึก ปะทะ Cluely แอปฯ โกงสุดล้ำ

เกิดการแข่งขันในแวดวงเทคโนโลยีอย่างดุเดือด เมื่อบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้และสกัดกั้นการใช้งานแอปพลิเคชันโกงข้อสอบด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI นั่นคือแอปพลิเคชันคูลลี่ (Cluely) ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในขณะนี้ 

แอปพลิเคชันคูลลี่ (Cluely) กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการโฆษณาที่อ้างว่าหน้าต่างเบราว์เซอร์ที่ซ่อนเร้นของตนนั้น ไม่สามารถตรวจจับได้ และสามารถนำไปใช้ในการ โกงได้ทุกสิ่ง ตั้งแต่การสัมภาษณ์งานไปจนถึงการสอบต่าง ๆ การกล่าวอ้างดังกล่าวได้จุดประกายความกังวลอย่างมากในวงการการศึกษาและการประเมินผล

แต่การเคลื่อนไหวล่าสุดจากสตาร์ทอัพบางรายได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะต่อต้านปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยสตาร์ทอัพจากซานฟรานซิสโก (San Francisco) ชื่อวาลิเดีย (Validia) หรือ บริษัทเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มุ่งเน้นการยืนยันตัวตนแบบเรียลไทม์ในสภาพแวดล้อมดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีด้วยเทคโนโลยี AI เช่น deepfake ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ฟรีที่มีชื่อว่า ทรูลี่ (Truely) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ Cluely โดยตรง โดยทาง Validia ระบุว่าซอฟต์แวร์ของตนสามารถส่งสัญญาณเตือนได้หากตรวจพบการใช้งาน Cluely 

นอกจากนี้ สตาร์ทอัพจากโรดไอแลนด์ (Rhode Island) ชื่อพรอคทาโร่ (Proctaroo) ก็ได้ออกมากล่าวอ้างว่าแพลตฟอร์มของตนเองก็สามารถตรวจจับผู้ใช้งาน Cluely ได้เช่นกัน โดยอ้างว่าเมื่อเซสชันของ Proctaroo ทำงานอยู่นั้น ผู้ใช้สามารถมองเห็นแอปพลิเคชันที่กำลังเปิดใช้งานและกระบวนการเบื้องหลังที่ ซ่อนอยู่ได้ 

อีกทั้ง เอเดรียน อาโมดต์ (Adrian Aamodt) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Proctaroo ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TechCrunch พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์รูปแบบธุรกิจของ Cluely ว่าเป็นสิ่งที่ ผิดจรรยาบรรณ

ในขณะเดียวกัน ลี ชุงอิน (Lee Chung In) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cluely ได้ออกมาตอบโต้เครื่องมือต่อต้านการโกงที่สตาร์ทอัพเหล่านี้โปรโมท โดยกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ และเปรียบเทียบกับความล้มเหลวในการปราบปรามการโกงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นเขายังกล่าวอีกว่า Cluely อาจจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาฮาร์ดแวร์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ซอฟต์แวร์ป้องกันการโกงที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นล้าสมัยไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นแว่นตาอัจฉริยะ (smart glasses), แผ่นกระจกใสที่ซ้อนบนหน้าจอ (transparent glass screen overlay), สร้อยคอสำหรับบันทึกเสียง (recording necklace), หรือแม้แต่ชิปในสมอง (brain chip) 

อีกทั้งยังบอกอีกว่าการขยายไปสู่ธุรกิจฮาร์ดแวร์นั้นเป็นเรื่องที่ ง่ายมากในเชิงเทคโนโลยี แม้ว่าจะมีตัวอย่างความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ AI ที่เป็นที่รู้จักหลายราย 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจของ Cluely จะเริ่มส่งผลกระทบบ้างแล้ว โดย Cluely ได้ทำการลบข้อความอ้างอิงถึงการโกงในการสอบและการสัมภาษณ์งานออกจากเว็บไซต์และแถลงการณ์ ของตน ซึ่งเดิมเคยเป็นจุดขายหลักที่สำคัญ ปัจจุบัน Cluely มุ่งเน้นการโฆษณาไปที่การ โกง ในบริบทของการโทรขายและการประชุมต่าง ๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ ลี ชุงอิน (Lee Chung In) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TechCrunch ว่า Cluely กำลังปรับเปลี่ยน ข้อความทางการตลาดของตนเองเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยัง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีผลกระทบมากที่สุด และท้ายที่สุด บริษัทมองเห็นอนาคตที่ทุกคนใช้ AI อย่างเต็มศักยภาพ และนั่นหมายถึงการลงหลักปักฐานในตลาดขนาดใหญ่และเฉพาะเจาะจง และขยายออกไปจากตรงนั้น

สิ่งนี้สะท้อนถึงการส่งสัญญาณถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงไปของสตาร์ทอัพ Cluely ที่กำลังตกเป็นที่จับตามอง