อิตาลียกระดับทั้งประเทศสู่ 'พื้นที่สีแดง' ช่วงเทศกาล หลังยอดโควิด-19 พุ่ง
โรม, 25 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) อิตาลียกระดับพื้นที่ทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อสูงในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส วันปีใหม่ ไปจนถึงวันที่ 6 ม.ค. หลังยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พุ่งสูงขึ้น
กฎระเบียบของพื้นที่สีแดงได้แก่ ห้ามมิให้มีการเดินทางข้ามแคว้น กำหนดเคอร์ฟิวหรือห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. สั่งปิดร้านค้า บาร์ และร้านอาหาร รวมถึงขอความร่วมจากมือประชาชนที่ต้องการจัดงานสังสรรค์ที่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 รัฐบาลอิตาลีแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ระดับแทนด้วย 3 สี ได้แก่ เหลือง ส้ม และแดงซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยจะบังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆ ตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดพื้นที่ที่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและสร้างภาระหนักเกินกำลังให้แก่ระบบสาธารณสุขแห่งชาติของอิตาลีจะถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีแดง และจะมีการบังคับใช้ข้อจำกัดเพื่อยับยั้งโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุด โดยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีของอิตาลีประกาศให้ทั้งประเทศเป็นพื้นที่สีแดงในช่วงเทศกาลวันหยุด เพื่อคุมการระบาดของเชื้อไวรัส
(แฟ้มภาพซินหัว : ชาวอิตาลีสวมหน้ากากอนามัยขณะชมต้นคริสมาสต์ปิอัซซาเวเนเซีย ในกรุงโรมเมืองหลวงของประเทศอิตาลี วันที่ 14 ธ.ค. 2020)
เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีระบุว่าอิตาลีมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 593,632 ราย จากประชากรทั้งหมดราว 60 ล้านคน และมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 505 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มแตะ 70,395 ราย นับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดใหญ่ในจำนวนผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก มีผู้ที่มีอาการป่วยน้อยหรือไม่มีอาการป่วยกักตัวอยู่ที่บ้าน 566,973 ราย ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ที่ 24,070 ราย ขณะที่ผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนักมีจำนวน 2,589 ราย"โดยรวมแล้วอัตราการติดเชื้อของอิตาลียังอยู่ในระดับสูงมาก และการแพร่ระบาดยังคงสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศ" กระทรวงระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) ในรายงานการสังเกตการณ์โรคโควิด-19 ของสัปดาห์ที่ 14-20 ธ.ค.กระทรวงระบุว่า พื้นที่แทบทั้งหมดเสี่ยงที่จะคุมไม่อยู่และจัดการได้ไม่ดีในระดับปานกลาง-สูง ทำให้ต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดต่อไปในช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสเมื่อวันพุธ (23 ธ.ค.) โดเมนิโก อาร์คูรี กรรมาธิการวิสามัญของเหตุฉุกเฉินโรคโควิด-19 ระบุว่าอิตาลีจะเริ่มฉีดวัคซีนในวันอาทิตย์ (27 ธ.ค.) หลังจากได้รับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคชุดแรกจำนวน 9,750 โดส"ไฟเซอร์ระบุว่าพวกเขาจะเริ่มขนส่งวัคซีนอีก 470,000 โดสให้อิตาลีตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. เป็นต้นไป โดยจะส่งไปยังหน่วยงานฉีดวัคซีน 300 แห่งทั่วประเทศ" อาร์คูรีกล่าว พร้อมเสริมว่าคนกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนเป็นชาวอิตาลี 1.8 ล้านคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า และมีคนกลุ่มนี้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พนักงานในโรงพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่และผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชรา" เขากล่าวด้วยว่าประชาชนทุกคนในอิตาลีจะได้รับวัคซีนตามความสมัครใจและไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งนี้ องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคเมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.)"นี่เป็นข่าวดีที่เราเฝ้ารอ" โรแบร์โต สเปรานซา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลีกล่าว เขาระบุว่าแม้การต่อสู้กับเชื้อไวรัสยังมีความซับซ้อนอยู่มาก แต่วัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนั้นจะทำให้อิตาลีเข้าสู่ระยะใหม่ของการต่อสู้และมีความเชื่อมั่นมากขึ้น