“นฤมล” ยันปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ไม่กระทบส่งออกสินค้าภาคเกษตรไทย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแถลงข่าวผลกระทบต่อภาคการเกษตรต่อกรณีไทย – กัมพูชา ว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงเกษตรฯ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลผลกระทบกับภาคการเกษตร และหาแนวทางที่จะทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
จากข้อมูลล่าสุดตัวเลขสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา หรือ มีการขนส่งผ่านทางกัมพูชาเพื่อส่งออกไปยังประเทศเวียดนามนั้น มีจำนวนและปริมาณไม่มาก โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ไม่ใช่สินค้าภาคการเกษตร ซึ่งทางกัมพูชาน่าจะได้รับผลกระทบในการส่งออกสินค้ามาที่ประเทศไทยมากกว่า เช่น มันสำปะหลัง ประมาณ 7,000 - 9,000 ล้านบาท
โดยตนมองว่าน่าจะเป็นผลดีกับราคามันสำปะหลังในประเทศด้วยซ้ำ เพราะภาคเอกชนทจะหันมาใช้มันสำปะหลังในประเทศมากขึ้น รวมไปถึงพืชชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาทดแทนกันได้ด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหามันสำปะหลังจากแหล่งอื่นมาทดแทนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ สินค้าเกษตรของไทยส่วนใหญ่ส่งออกไปประเทศจีนมากที่สุด โดยขนส่งผ่านทางประเทศลาว เช่น ทุเรียน เป็นต้น
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่น ๆ เข้าไปช่วยเหลือและระบายสินค้าไปยังแหล่งอื่น ๆ และได้มีข้อสั่งการให้จัดทำแผนระยะกลางและระยะยาวหากเหตุการณ์ตึงเครียดยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ จะมีการประสานกับภาคเอกชนในการรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรไทย แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องขอฝากภาคเอกชน ขอให้ร่วมกันอุดหนุนสินค้าการเกษตรด้วย
การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา มีมูลค่ารวมในปี พ.ศ. 2567 อยู่ที่ประมาณ 174,530 ล้านบาท (กระทรวงพาณิชย์, 2568) โดยไทยส่งออกไปกัมพูชาเป็นมูลค่า 141,846 ล้านบาท และมีการนำเข้า 32,684 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า 109,162 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ: เครื่องดื่ม, ส่วนประกอบรถยนต์/มอเตอร์ไซค์, เครื่องยนต์, เครื่องจักรกลการเกษตร ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ: มันสำปะหลัง, เศษโลหะ (อลูมิเนียม, ทองแดง), ลวดสายไฟ ฯลฯ
ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ไทยส่งออกสินค้าสำคัญไปกัมพูชา อาทิ
(1) น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์
(2) เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอชที นมถั่วเหลือง
(3) น้ำ รวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่น ๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส
(4) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียม
(5) พาสต้าอื่นๆ ที่สุก อาทิ เส้นหมี่ วุ้นเส้น ขณะที่มีการนำเข้ามันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ แป้งมัน และเอทานอล และส่งต่อไปยังอุตสาหกรรมแปรรูปของไทย
“วันนี้อยากจะให้พี่น้องคนไทยมีความสามัคคีกัน และขอให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศ คลายความกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้สบายใจได้ว่า จะไม่มีใครได้รับผลกระทบ และกระทรวงเกษตรฯ จะดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด จะไม่ปล่อยให้เกิดผลกระทบขึ้นอย่างแน่นอน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศบ.ทก. แถลงย้ำไม่มีการลุกล้ำน่านฟ้า หรือ แผ่นดินกัมพูชา
- “อนุทิน” ยื่นหนังสือลาออกจากรองนายกฯ–รมว.มหาดไทย มีผล 19 มิ.ย.
- นายกฯ ขอโทษคลิปเสียง ยันรัฐบาลกับกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน
- "เฉลิมชัย" เผยความเห็นสมาชิกพรรค ปชป. มีหลากหลาย เรียกประชุม 5 โมงเย็นวันนี้
- นายกฯ เรียกฝ่ายความมั่นคง หารือด่วนสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
- ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ย้ำ “คนไทยต้องสามัคคี”
- ไทม์ไลน์เดือด 19 มิ.ย. เขย่าตำแหน่งนายกฯ สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
