ยอด 'หนี้บัตรเครดิต' ในสหรัฐฯ ทะลุ 1 ล้านล้านดอลล์
นิวยอร์ก, 2 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) หนังสือพิมพ์เดอะฮิลล์ของสหรัฐฯ เผยว่ายอดค้างชำระบัตรเครดิตของสหรัฐฯ สูงเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.59 ล้านล้านบาท) และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบัตรใหม่อยู่ที่ร้อยละ 24 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเรแกนโนมิกส์ (Reaganomics) โดยปัจจุบันครัวเรือนอเมริกันทั่วไปมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 345,900 บาท) ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่อีกรายการหนังสือพิมพ์ฯ ชี้ว่ายอดชำระหนี้ 250 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 8,600 บาท) พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 24 จะต้องใช้เวลาชำระจนถึงปี 2030 โดยใช้เงินชำระรวม 20,318 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 702,000 บาท) ซึ่งมากกว่ายอดหนี้เดิมถึง 2 เท่า โดยพิจารณาจากกรณีที่จะไม่ใช้บัตรใบเดียวกันอีกครั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ รายงานยอดหนี้บัตรเครดิตในประเทศรวมอยู่ที่ 9.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.07 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.63 ล้านล้านบาท) ใน 2 ปีขณะเดียวกัน องค์กรบางส่วนคาดการณ์ยอดหนี้บัตรเครดิตในประเทศสูงกว่าตัวเลขข้างต้น โดยรายงานจากวอลเลตฮับ (WalletHub) ระบุว่ายอดหนี้บัตรเครดิตในสหรัฐฯ รวมอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 41.48 ล้านล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นปี 2022