เซี่ยงไฮ้ใช้ “ห่วงชูชีพอัจฉริยะ” เสริมทีมกู้ภัยดูแลประชาชนย่านเมืองแม่น้ำ

หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยเขตฉงหมิงในมหานครเซี่ยงไฮ้ ได้นำระบบกู้ภัยทางน้ำขั้นสูงสองระบบมาใช้ ได้แก่ ห่วงชูชีพอัจฉริยะ และ เครื่องตรวจจับโซนาร์ใต้น้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือเหตุฉุกเฉินในสภาพแวดล้อมทางน้ำที่ซับซ้อน และช่วยประหยัดเวลาในการเข้าถึงผู้ประสบภัยระหว่างปฏิบัติการ

โครงการใช้ห่วงชูชีพอัจฉริยะ

อู๋ หงรุ่ย (Wu Hongrui) หัวหน้าหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยชุดที่หนึ่ง สถานีดับเพลิงและกู้ภัยเจียงฟาน เขตฉงหมิง กล่าวว่า ห่วงชูชีพอัจฉริยะนี้สามารถลากคนได้สูงสุดสี่คน ลากจูงน้ำหนักได้ประมาณหนึ่งตัน และแล่นด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 7 เมตรต่อวินาที 

นอกจากห่วงชูชีพอัจฉริยะแล้ว หน่วยงานยังได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจจับโซนาร์ไว้ที่ด้านข้างของเรือ สามารถสแกนได้ไกลประมาณ 75 เมตรในแต่ละฝั่งแม่น้ำ เมื่อเกิดเหตุ ทางหน่วยงานก็จะส่งเรือไปยังศูนย์กลาง และจะทำการสำรวจด้วยโซนาร์ใต้น้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา

รายละเอียดเกี่ยวกับห่วงชูชีพอัจฉริยะ

สำหรับรายละเอียดของห่วงชูชีพอัจฉริยะที่หน่วยงานใช้ พบว่าเป็นของบริษัท โอเชียน อัลฟ่า (OceanAlpha) ผู้พัฒนาอุปกรณ์การกู้ภัยทางน้ำจากฮ่องกง โดยเป็นรุ่น ดอลฟิน ทรี (Dolphin 3) เปิดตัวในปี 2024 นับเป็นยานกู้ภัยผิวน้ำไร้คนขับ ควบคุมได้จากระยะไกลด้วยรีโมตคอนโทรล

ตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับจอภาพแสดงวิดีโอแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ควบคุมมองเห็นผิวน้ำผ่านหน้าจอ ช่วยให้มองหาเศษซาก ผู้รอดชีวิต หรืออันตรายได้ง่ายขึ้น และตัวอุปกรณ์ห่วงชูชีพ ยังมีระบบความปลอดภัย เช่น หากแบตเตอรี่ลดต่ำกว่าร้อยละ 15 หรือสัญญาณ GPS ขาดหาย ก็จะแล่นกลับสู่จุดปล่อยเดิมอัตโนมัติ เพื่อป้องกันอุปกรณ์สูญหาย

นอกจากนี้ ห่วงชูชีพอัจฉริยะ ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย พร้อมโหมดสแตนบายด้วยพลังงานต่ำเป็นพิเศษ 90 วันเพื่อให้พร้อมรับกับการเรียกใช้งานในกรณีฉุกเฉิน และยังทนต่ออุณหภูมิ -20 ถึง 60 องศาเซลเซียส สำหรับราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ประมาณ 8,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 276,000 บาท