รีเซต

ปภ. เตือน 12 จังหวัดภาคใต้ ระวัง "น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก ดินถล่ม" ช่วง 5 - 11 ธ.ค. 67

ปภ. เตือน 12 จังหวัดภาคใต้  ระวัง "น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก ดินถล่ม" ช่วง 5 - 11 ธ.ค. 67
TNN ช่อง16
4 ธันวาคม 2567 ( 13:30 )
16

วันนี้ (4 ธ.ค. 67) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทยตอนล่างกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ โดยพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 5 – 11 ธันวาคม 2567 แยกเป็น


พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม


-จังหวัดชุมพร 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว อำเภอละแม อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอพะโต๊ะ 

-จังหวัดสุราษฎร์ธานี 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอบ้านนาสาร อำเภอเวียงสระ อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน อำเภอเคียนซา อำเภอพระแสง อำเภอชัยบุรี อำเภอดอนสัก อำเภอเกาะพะงัน และอำเภอเกาะสมุย 

-จังหวัดนครศรีธรรมราช 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอพิปูน อำเภอฉวาง อำเภอท่าศาลา อำเภอพรหมคีรี อำเภอลานสกา อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด และอำเภอหัวไทร 

-จังหวัดพัทลุง 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอควนขนุน อำเภอกงหรา และอำเภอป่าบอน 

-จังหวัดสงขลา 14 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอบางกล่ำ อำเภอสิงหนคร อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอรัตภูมิ อำเภอระโนด อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย 

-จังหวัดปัตตานี 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอแม่ลาน อำเภอกะพ้อ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอไม้แก่น อำเภอยะรัง อำเภอสายบุรี อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ และอำเภอหนองจิก 

-จังหวัดยะลา 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอกรงปินัง อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา อำเภอกาบัง อำเภอยะหา และอำเภอรามัน 

-จังหวัดนราธิวาส 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอศรีสาคร อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอแว้ง อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอจะแนะ อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ

-จังหวัดพังงา 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอกะปง 

-จังหวัดภูเก็ต ทุกอำเภอ 

-จังหวัดตรัง 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอวังวิเศษ อำเภอย่านตาขาว อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง และอำเภอปะเหลียน 

-จังหวัดสตูล 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสตูล อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอควนกาหลง และอำเภอควนโดน


พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ปัจจุบันมีระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับที่มีความเสี่ยง อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อน ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อนด้วย


พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองท่าดี คลองชะอวด แม่น้ำตรัง คลองลำ คลองท่าแนะ คลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส


กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 12 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน และพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้น้อยที่สุดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ 


โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัยให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด


สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถ ติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THA DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง