รีเซต

BCPGรุกคลังน้ำมันท่าเรือ กรุยทางขนส่งไฮโดรเจน

BCPGรุกคลังน้ำมันท่าเรือ กรุยทางขนส่งไฮโดรเจน
ทันหุ้น
4 มกราคม 2566 ( 07:21 )
184

#BCPG #ทันหุ้น - BCPG เงินหนาทุ่ม 9 พันล้านบาท ฮุบโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ สร้างรายได้ประจำ โบรกชี้มีกำไรขั้นต่ำปีละ 375 ล้านบาท รายได้ราว 900 - 1,000 ล้านบาทต่อปี  แถมโอกาสต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานอนาคต เช่น ขนส่งไฮโดรเจน ชี้ฐานะการเงินแกร่งเงินสด 2 หมื่นล้านบาท พร้อมลงทุน เป้า 13.10 บาท

 

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนในโครงการคลังจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือที่จังหวัดเพชรบุรี โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดในบริษัท เอเชียลิงค์ เทอมินัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท แพนเอเชีย สตอเรจแอนด์เทอร์มินัล จำกัด เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 9,000 ล้านบาท

 

โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าว ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ด้วยกระแสเงินสดภายในบริษัท โดยบริษัทเล็งเห็นว่าบริษัทเป้าหมายซึ่งดำเนินธุรกิจจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือที่จังหวัดเพชรบุรี  เป็นโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานเกี่ยวเนื่องกับพลังงานที่มีศักยภาพ สามารถสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ ตามแผนการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุนของบริษัทรวมทั้งสามารถต่อยอดเพื่อรองรับธุรกิจอื่นๆ ได้ในอนาคตอีกด้วย

 

*ต่อยอดรายได้ประจำ

 

“โครงการคลังจัดเก็บน้ำมันดังกล่าว มีสัญญาให้บริการคลังน้ำมันที่มีการกำหนดค่าบริการรายเดือนแบบเหมาจ่ายที่ชัดเจนตลอดระยะเวลาสัญญา และยังได้ท่าเทียบเรือซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่สามารถต่อยอดไปรองรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย การลงทุนในโครงการดังกล่าวจึงสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัททางด้านการหาโอกาสลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงานและระบบสาธารณูปโภคที่สามารถสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ รวมถึงผลกำไรให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง” นายนิวัติกล่าว

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BCPG ว่า  บริษัทประกาศเข้าลงทุนซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท เอเชียลิงค์ เทอมินัล  จำกัด เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 9,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัททำธุรกิจคลังจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือที่จังหวัดเพชรบุรี โดยปัจจุบันมีถังเก็บน้ำมันที่บรรจุน้ำ มันได้ 480 ลิตร (กำลังสร้างเพิ่มอีก 230 ลิตร) + ท่อส่งน้ำมัน + ท่ากระจายน้ำมันบนบก และมีท่าเรือสำหรับขนถ่ายน้ำมัน รองรับการเทียบเรือได้ 30,000 ตันกรอส 2 ลำ (กำลังขยายเพิ่มเป็น120,000 ตันกรอส 5 ลำ)

 

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนดังกล่าว โดยธุรกิจคลังเก็บน้ำมัน และท่าเรือจะเข้ามาช่วยเสริม Recurring ของบริษัทได้ทันที เนื่องจากรายได้จะมาจากค่าเช่าและค่าถ่ายน้ำมันเป็นหลัก (ปัจจุบันลูกค้าหลักคือ บางจาก และบริษัทน้ำมันรายใหญ่อีกราย) และในอนาคตท่าเรือจะสามารถต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานในอนาคตของ BCPG ได้ (เช่น ธุรกิจขนส่งไฮโดรเจนที่บริษัทวางเป้าจะทำ) เบื้องต้นประเมินกำไร 375 ล้านบาทต่อปี และรายได้ราว 900 - 1,000 ล้านบาทต่อปี อิงสมมติฐาน ค่าเช่าคลังน้ำมัน + ค่าถ่ายน้ำมัน 0.11 บาทต่อลิตรต่อเดือน, ถังเก็บน้ำมัน 710 ลิตร, EBIT Margin 50% บนราคาที่ซื้อ 9,000 ล้านบาท จะคิดเป็น PER ที่ราว 24 เท่า และคาดดีลจบในไตรมาส 1/2566

 

ด้านแหล่งเงินทุน บริษัทจะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัทก่อน (ไตรมาส 3/2565 มีเงินสดราว 2 หมื่นล้านบาท) และมีโอกาสที่จะทำ Project Finance ในระยะถัดไป (บนสมมติฐาน D/E = 50%/50% และดอกเบี้ย 5% คาดกำไรส่วนเพิ่มจากดีลนี้จะอยู่ราว 200 ล้านบาทต่อปี)

 

*ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

 

ส่วนด้าน Outlook ประเมินกำไร 2566-2567 ยังจะปรับตัวลดลงจากการได้รับผลกระทบของ Adder ที่หมดลง (ปี 2566-2567 คาดรายได้จาก Adder หายไปปีละ 800 ล้านบาท) ทั้งนี้บริษัทมีแผนลงทุนในโครงการใหม่เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจาก Adder (ประมาณการยังไม่รวมโครงการใหม่ที่เตรียม M&A ในปี 2566 แต่รวมการลงทุนใน Solar ไต้หวัน 469 เมกะวัตต์ 3.5 หมื่นล้านบาท) โดยยังคงคำ แนะนำ “ซื้อ” ปี 2566 ที่ 13.10 บาท

 

บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว 391เมกะวัตต์ และอยู่ใน Pipeline 718 เมกะวัตต์ ส่วนฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมกัน 2 หมื่นล้านบาท พร้อมสำหรับการลงทุน

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง