นายกฯ ถกนัดแรกครม.เศรษฐกิจ คาดลุยแก้ระยะสั้น - เน้นช่วยกลุ่มเปราะบาง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมเป็นประธานการประชุม คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจนัดแรกช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการหารือคาดว่าจะเน้นมาตรการระยะสั้น กระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการให้เห็นผลทันที และเน้นการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี และกลุ่มเปราะบาง หลังตัวเลขเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ในไตรมาสแรกออกมาขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5 โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แต่ละรัฐมนตรี และแต่ละหน่วยงานเสนอไอเดียเบื้องต้น เพื่อเป็นการเตรียมมาตรการระยะสั้น และต้องเห็นผลอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดนายกรัฐมนตรียอมรับค่ำวานนี้ (26 พ.ค.) ได้รับประทานอาหารกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมความพร้อมว่าจะมีการพูดคุยเรื่องใดบ้าง ซึ่งต้องให้เกียรติคณะกรรมการที่มาร่วมประชุม หากจะมาให้ข้อมูลก่อนก็คงไม่เหมาะสม ทั้ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และคนอื่น ๆ แต่เป็นการพูดคุยว่าแต่ละคน มีข้อคิดเห็นอย่างไร มีข้อเสนอแนะอย่างไร
พร้อมระบุว่าการประชุมวันนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และไม่อยากใช้คำว่า ครม.เศรษฐกิจ แต่เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และย้ำว่าจะขอฟังความคิดเห็นก่อน ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาเป็นมาตรการหรือไม่
สำหรับการประชุมครม.เศรษฐกิจ หรือการประชุม รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับงานเศรษฐกิจนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการประชุมลักษณะนี้ เพราะย้อนกลับไปในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การประชุมครม.เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง ‘คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ’ โดยมี ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นประธาน พร้อมแต่งตั้งรองประธาน ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 3 คน มีกรรมการและรัฐมนตรี 11 กระทรวง อาทิ กระทรวงการคลัง, ท่องเที่ยวและกีฬา, อว., เกษตรและสหกรณ์, คมนาคม, ดีอีเอส,พลังงาน, แรงงาน และอุตสาหกรรม โดยมี ‘เลขาธิการสภาพัฒน์’ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
สำหรับอำนาจ-หน้าที่ เพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่องสำคัญในปัญหาเกี่ยวพันหรือมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ตลอดจนประเมิน วิเคราะห์ และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางตัดสินใจเชิงรุกในประเด็นหรือนโยบาย ก่อนนำเสนอครม.พิจารณา
นอกเหนือภารกิจนายกรัฐมนตรี เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ในสัปดาห์นี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ (บอร์ด ธ.ก.ส.) จะเป็นประธานประชุมประชุมบอร์ด ธ.ก.ส.พร้อมหยิบยกประเด็นโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ศึกษาในรายละเอียด มาหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินโครงการในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้
ส่วนการส่งหนังสือสอบถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น อยู่ระหว่างรวบรวมประเด็นคำถาม เพื่อให้รัดกุมก่อน จึงจะส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะส่งหนังสือไปได้เมื่อใด สำหรับเรื่องสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.ไม่อยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วง มีสถานะการเงินเข้มแข็ง มีเงินฝากสูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดและอีกประเด็น คือ มีเวลาให้เตรียมการ โดยยืนยันว่าจะทำทุกอย่างตามความเหมาะสม
ภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล