รีเซต

“เบนจามิน เนทันยาฮู” ไม่นานจะกลับมา สิ้นสุดการผู้นำอิสราเอล 5 สมัย

“เบนจามิน เนทันยาฮู” ไม่นานจะกลับมา สิ้นสุดการผู้นำอิสราเอล 5 สมัย
TNN World
17 มิถุนายน 2564 ( 09:15 )
126

Editor’s Pick: ข้าชื่อ “เบนจามิน เนทันยาฮู” ไม่นานจะกลับมา

 


รัฐบาลผสมชุดใหม่ของอิสราเอล รวม 8 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นพันธมิตร ประกอบด้วยพรรคแนวทางเสรีนิยม, อนุรักษ์นิยม, แนวทางสายกลาง ไปจนถึงพรรคตัวแทนของชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับ ที่เข้าร่วมรัฐบาลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 


พรรคเหล่านี้แทบจะไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย ทั้งจุดยืนทั้งนโยบายก็แตกต่างกันอย่างมาก มีเพียงจุดร่วมเพียงประการเดียวที่เห็นดีเห็นงามร่วมกัน คือต้องการเขี่ยนายเบนจามิน เนทันยาฮู พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

 


เนทันยาฮู ครองอำนาจมา 12 ปี มาวันนี้ กลับต้องไปเป็นฝ่ายค้าน และแน่นอนด้วยสถานการณ์การเมืองแบบนี้ ทำให้นักวิเคราะห์และบรรดาคอการเมืองทั้งหลาย มองมุมเดียวกันว่า พรรคพันธมิตรใหม่นี้ มีความเปราะบางมาก อาจแตกคอกันได้ตลอดเวลา ซึ่งในที่สุดแล้วรัฐนาวาของอิสราเอล ก็ไปไม่ถึงฝั่งอยู่ดี    

 

 


บัลลังก์นายกฯ ผลัดกันเชยชม


ด้วยข้อตกลงแบ่งปันอำนาจในการตั้งรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรใหม่นี้ เก้าอี้นายกรัฐมนตรีต้องแบ่งกันเชยชม เป็น 2 ช่วง สลับกันนั่งคนละ 2 ปี 

 


นายนาฟตาลี เบนเนตต์ ผู้มีความคิดชาตินิยม หัวหน้าพรรคยามีนา มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี วัย 49 ปี ได้สิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อนเป็นเวลา 2 ปี สิ้นสุด 2023 จากนั้นก็ให้นายยาอีร์ ลาปิด วัย 57 ปี หัวหน้าพรรคเยช อาติด อดีตพิธีกรโทรทัศน์ชื่อดัง นั่งบริหารประเทศต่อในช่วงที่เหลือ ซึ่งด้วยสถานการณ์การเมืองที่อ่อนไหวแบบนี้ ก็ต้องลุ้นเอาว่า นายลาปิดจะมีวาสนาได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ 

 


แม้ว่าพรรคยามีนา ได้คะแนนอันดับ 5 ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 23 มีนาคมที่ผ่านมา มีเพียง 7 ที่นั่ง แต่เสียงสนับสนุนของทางพรรคถือว่าสำคัญอย่างมาก, หลังเจรจาต่อรองกันนานหลายสัปดาห์ นายลาปิด ก็รวมเอาพรรคยามีนา มาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมืองที่มีจุดประสงค์เดียวกัน คือขับนายเนทันยาฮู พ้นจากตำแหน่ง 

 


8 พรรคการเมือง ซึ่งรวมกันมี 61 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากในสภา ลงนามในข้อตกลงเป็นพันธมิตรตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เพียงครึ่งชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเส้นตาย ตอกฝาโลงนายเนทันยาฮูอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ผู้นำอิสราเอล 5 สมัย กับช่วงขาลงทางการเมือง


12 ปีกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮู ปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อสมาชิกรัฐสภา ที่เรียกว่า สภาเนสเซต (Knesset) ของอิสราเอล ลงมติด้วยคะแนนฉิวเฉียดรับรอง “รัฐบาลชุดใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง” ด้วยคะแนนเสียง 60-59 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง

 


เนทันยาฮู ผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดของอิสราเอล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 5 สมัย โดยสมัยแรกจากปี 1996-1999 จากนั้นก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันจากปี 2009-2021  

 


แต่รัฐบาลของเขาก็อ่อนแอลงจากความล้มเหลวซ้ำซาก ไม่ได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่ปี 2019 อีกทั้งยังถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชั่นที่กระบวนอยู่ในศาลขณะนี้ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธการกระทำความผิด และในการเลือกตั้งล่าสุด ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ จนพรรคฝ่ายค้านรวมกลุ่มกันตั้งรัฐบาลแทน

 


เขาจัดการเลือกตั้งในเดือนเมษายน 2019 แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนเพื่อตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้เพียงพอ จากนั้นก็จัดการเลือกตั้งอีก 2 ครั้ง ก็ลงเอยแบบเดียวกัน หลังเลือกตั้งครั้งที่ 3 เขาตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติร่วมกับนายเบนนี แกนต์ซ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้น แต่ข้อตกลงก็พังครืน และอิสราเอลกลับไปสู่การเลือกตั้งครั้งที่ 4 ในเดือนมีนาคม

 


พรรคลิคุด ยังชนะเลือกตั้งได้เสียงมากที่สุด แต่หลังจากเนทันยาฮู ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้อีก ภารกิจนี้จึงไปตกอยู่กับนายลาปิด ที่เป็นพรรคอันดับ 2

 

 

เขาจะกลับมา ขอเวลาอีกไม่นาน


เนทันยาฮู ในวัย 71 ปี หัวหน้าพรรคลิคุด ผู้ไม่เคยเบื่อการเมือง ถือเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นที่สุดในยุคของเขา ให้คำมั่นว่า “ผมจะกลับคืนสู่อำนาจในเร็ว ๆ นี้” พร้อมทั้ง กล่าวโจมตีนายเบนเนตต์และรัฐบาลชุดใหม่ว่า โกหกปลิ้นปล้อน และกล่าวหาการจัดตั้งพรรคพันธมิตรครั้งนี้ว่า “การโกงแห่งศตวรรษ” หลังจากที่นายเบนเนตต์เคยสัญญาไว้ว่าจะไม่เข้าร่วมกับนายลาปิด

 


แค่เริ่มต้นก็ดุเดือดแล้ว ในการประชุมสภาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการอภิปรายกันอย่างเคร่งเครียด ถึงพริกถึงขิง พรรคลิคุด ฝ่ายขวาของเนทันยาฮู และกลุ่มผู้สนับสนุนออร์ธอด็อกซ์สุดโต่ง ต่างพากันตะโกน “น่าอาย” และ “โกหก” ใส่นายเบนเนตต์ ก่อนสมาชิกรัฐสภาลงมติไว้วางใจรัฐบาลชุดใหม่ของเขา

 


ในการกล่าวสุนทรพจน์ นายเบนเนตต์ กล่าวว่า นี้ไม่ใช่วันแห่งความเศร้าเสียใจ แค่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น พวกเราจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ ไม่มีใครต้องมารู้สึกกลัว และขอบอกคนที่ต้องการฉลองในคืนนี้ อย่าเต้นรำบนความเจ็บปวดของคนอื่น เราไม่ใช่ศัตรูกัน เราเป็นประชาชนเหมือนกัน 

 

หลังการลงมติ นายเนทันยาฮู ก็เดินไปหานายเบนเนตต์ และจับมือ

 

 


รัฐบาลแห่ง ‘ความไม่เปลี่ยนแปลง’ ?


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ของอิสราเอล ไม่ได้มีนโยบายอะไรโดดเด่น หลีกเลี่ยงประเด็นปัญหาระหว่างประเทศร้อน ๆ เช่นนโยบายต่อปาเลสไตน์ เหมือนไม่กล้าชน แต่มามุ่งเน้นในการปฏิรูปภายในประเทศแทน ซึ่งชาวปาเลสไตน์เองก็คงมองออก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้อิสราเอลเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ และคาดว่า นายเบนเนตต์ ก็จะเดินตามรอยนายเนทันยาฮูเหมือนเดิม

 


ดูได้จากคณะผู้แทนของชาวปาเลสไตน์ แทบไม่ได้แสดงปฏิกิริยาลิงโลดกับรัฐบาลชุดใหม่ของอิสราเอล ทั้ง ๆ ที่อยู่ในรัฐบาล ไม่ต่างจากหนีเสือปะจระเข้ เพียงแค่ไม่ต้องการผู้นำที่แข็งกร้าวอย่างเนทันยาฮูเท่านั้น ซึ่งบวกลบคูณหารแล้ว ผู้นำคนใหม่น่าจะดีกว่า แต่จะคิดผิดหรือไม่ รอลุ้นกัน 

 


โฆษกของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของคณะบริหารปาเลสไตน์ กล่าวว่า นี้เป็นกิจการภายในของอิสราเอล จุดยืนของพวกเราชัดเจนเสมอ สิ่งที่เราต้องการคือ รัฐปาเลสไตน์ตามพรมแดนเดิมในปี 1967 โดยมีเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวง ส่วนโฆษกของกลุ่มฮามาส กลุ่มหัวรุนแรงที่ควบคุมฉนวนกาซา บอกว่า มันคือการยึดครองและเอกลักษณ์ของอาณานิคม ซึ่งเราควรจะใช้กำลังต้านทานเพื่อเอาสิทธิ์ของเรากลับคืน 

 


นายเบนเนตต์ มีบิดามารดาเป็นชาวอเมริกัน ให้คำมั่นว่าจะสร้างความสามัคคีภายในชาติ หลังจากขัดแย้งและแตกแยกจากปัญหาการเมืองมานานหลายปี โดยในการกล่าวปราศรัยประกาศชัยชนะ เขารับปากว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีทำงานเพื่อประโยชน์ของชาวอิสราเอลทุกคน รวมทั้งคนที่ไม่ได้ออกเสียงเลือกเขาด้วย และสัญญาว่าจากนี้ไปจะเป็นยุคใหม่ของพลเมืองชาวอาหรับในอิสราเอล แต่สิ่งที่จะทำก่อนเลย คือการปฏิรูปการศึกษา, สาธารณสุขและลดขั้นตอนยุ่งยากต่าง ๆ ในระบบราชการ

 

 

 

รับตำแหน่งไม่นานก็เกิดเรื่อง 


ผ่านไปเพียงวันเดียว กองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศพุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา เป็นการตอบโต้ที่ปาเลสไตน์ส่งบอลลูนหลายลูก ที่สามารถติดไฟได้ จากฉนวนกาซา ข้ามพรมแดนเข้าไปในอิสราเอลเมื่อวานนี้ (15 มิถุนายน) 
ฝ่ายดับเพลิงอิสราเอลรายงานว่า บอลลูนทำให้เกิดเพลิงไหม้ประมาณ 20 จุด รวมถึงทุ่งหญ้าหลายแห่ง ใกล้กับชุมชนทางใต้ของอิสราเอล และใกล้กับพรมแดนฉนวนกาซา
การโจมตีครั้งนี้ นับเป็นความรุนแรงครั้งใหญ่ครั้งแรก ที่เกิดขึ้นหลังจากสงคราม 11 วัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เพิ่งยุติไปเมื่อ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ครบ 1 เดือนเลย สงครามครั้งนั้นทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 256 คน รวมเด็ก 66 คน และมีคนในอิสราเอลเสียชีวิต 12 คน 

 

 

พรรคชาวอาหรับร่วมรัฐบาลครั้งแรก


นักวิเคราะห์การเมือง กาย เบน โพแรต กล่าวว่า การมีพรรคของพลเมืองชาวอาหรับเข้าร่วมในรัฐบาลเป็นครั้งแรกถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญทางการเมืองของอิสราเอล โดยปัจจุบัน ชาวอาหรับมีสัดส่วนราว 21% ของพลเมืองทั้งหมดของอิสราเอล และมักจะตกเป็นฝ่ายถูกเลือกปฏิบัติมาตลอด

 


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพี่ใหญ่ของอิสราเอล ส่งหนังสือแสดงความยินดีต่อนายเบนเนตต์ โดยบอกว่า เขาตั้งตารอเพื่อกระชับ “ความสัมพันธ์ทวิภาคที่ใกล้ชิดและยั่งยืน”

 


แต่จากสภาพการเมืองของอิสราเอลแบบนี้ ดูแล้ว เนทันยาฮูคงจะกลับมาได้อีกในเร็ว ๆ นี้ เพราะชั่วโมงนี้ อิสราเอลน่าจะเหมาะกับผู้นำที่ชื่อเนทันยาฮู มากกว่า ในการรับมือกับสารพัดปัญหา โดยเฉพาะปัญหาระหว่างประเทศ เช่นความขัดแย้งกับอิหร่าน ด้วยประสบการณ์ที่ล้นเหลือของเขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง