ชป.กำชับทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
กรมชลประทานห่วงใยประชาชนกำชับจนท.โครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศใกล้ชิด วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยอันเกิดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ซินลากู พบว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 เกิดฝนตกหนักและตกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในเขตพื้นที่อำเภอปางมะผ้า ทำให้เกิดดินสไลด์ทับเส้นทางหลายจุด ลำน้ำของ ลำน้ำลาง ลำห้วยและลำน้ำสาขาในพื้นที่ ได้ไหลทะลักเข้าท่วมสิ่งสาธารณประโยชน์และพื้นที่การเกษตรของประชาชนในหลายหมู่บ้านประกอบด้วย หมู่ที่ 17 ตำบลถ้ำลอด หมู่ที่ 1-8 ตำบลสบปอง หมู่ที่ 1-11 ตำบลปางมะผ้า และหมู่ที่ 1-12 ตำบลนาป้อม อำเภอปางมะผ้า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ด้านจังหวัดเชียงราย ที่อำเภอเวียงป่าเป้า พบน้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ ตำบลแม่เจดีย์ ตำบลเวียงกาหลง ตำบลป่างิ้ว ตำบลบ้านโป่ง ตำบลเวียง และตำบลสันสลี ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร ขณะนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงและคาดว่าหากไม่มีฝนตกในพื้นที่เพิ่มเติมสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนที่อำเภอแม่สรวย พบน้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าก๊อ ตำบลแม่พริก ตำบลศรีถ้อย ตำบลป่าแดด เทศบาลเจดีย์หลวง และเทศบาลแม่สรวย ระดับน้ำท่วมสูง 50 – 150 เซนติเมตร ปัจจุบันยังคงมีฝนตกเล็กน้อย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรบริเวณริมลำน้ำลาว ทางโครงการชลประทานเชียงราย เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังอีกจำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง น่าน พะเยา เลย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และขอนแก่น ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และทางสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้พร้อมสำหรับเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จำนวนกว่า 55 จุด
ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ตลอดจนทำการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 และสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ทาง http://water.rid.go.th/ และ www.rid.go.th ได้ตลอดเวลา