รีเซต

บึงกาฬ เร่งตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิกรุก คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย

บึงกาฬ เร่งตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิกรุก คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย
ข่าวสด
19 พฤศจิกายน 2564 ( 13:49 )
31
บึงกาฬ เร่งตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิกรุก คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย

บึงกาฬ ตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิกรุก คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว พบติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย หลังร่วมเกี่ยวข้าว กินอาหารร่วมกัน ดื่มน้ำจากกระติกน้ำร่วมกัน ใช้แก้วเดียวกัน

 

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาสิงห์ (รพ.สต.นาสิงห์) บ้านนาทราย ม.2 ต.นาสิงห์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ผลบวก 6 ราย และ ผลตรวจ ยืนยัน RT PCR ผลบวก 3 ราย จากคลัสเตอร์เกี่ยวข้าว จนทำให้เด็กป.4 ติดโควิด 2 ราย จากผู้ปกครอง และสั่งปิดโรงเรียนบ้านนาสิงห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนภายในชุมชน กักตัวครูและนักเรียนจำนวน 19 ราย เป็นเวลา 14 วัน

 

 

ซึ่งเมื่อวานนี้ผลตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงออกมาเป็นบวกอีก 5 ราย รวมทั้งหมด 8 ราย ทั้งหมดเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์เกี่ยวข้าว เป็นบุคคลในครอบครัว ที่สัมผัสใกล้ชิดกัน ยายกับหลาน แม่กับลูก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเสี่ยงของคลัสเตอร์นี้ คือไปร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าว รับประทานอาหารร่วมกัน ดื่มน้ำจากกระติกน้ำ ร่วมกัน ใช้แก้วเดียวกัน

 

 

ล่าสุด นายโกเมณ ชาลี นายอำเภอศรีวิไล พร้อมด้วย สาธารณสุขอำเภอศรีวิไล เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสิงห์ ผอ.รพ.สต.นาสิงห์ ผอ.รพ.สต.ในพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2, 4 และ 6 ตำบลนาสิงห์ ร่วมประชุมหารือการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่

 

พร้อมนำเจ้าหน้าที่ รพ.สต. รพ.ศรีวิไล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) กลุ่มเสี่ยงกับชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ประมาณ 500 ราย ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์เกี่ยวข้าวนี้ พร้อมเก็บตัวอย่าง Swab PCR ส่งศูนย์โควิด อีกจำนวน 115 คน ส่วนชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้กักตัวที่บ้าน หรือตามไร่นา สวนยางพารา พร้อมทั้งออกประกาศให้คนในชุมชนงดกิจกรรมรวมกลุ่ม /สังสรรค์ /ไม่ออกบ้านโดยไม่จำเป็น

 

นายโกเมณ กล่าวว่า ถ้าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอาจจะต้องปิดหมู่บ้านเพื่อการควบคุมโรคฯ จึงขอความร่วมมือ ในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในทุกหมู่บ้าน ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ในทุกกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคน เช่น งานกฐิน ผ้าป่าฯงดการสังสรรค์

 

และเชิญชวนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคนในหมู่บ้าน รีบไปรับการฉีดวัคซีนฯ ตามจุดที่กำหนดในตำบล หมู่บ้าน รพ.สต.ทุกแห่ง และ ร.ร.อนุบาลศรีวิไล ได้ทุกวัน หรือผู้ใหญ่บ้านกำนัน รวบรวมรายชื่อผู้ต้องการฉีดวัคซีนแล้วประสานงาน จนท.สาธารณสุข ที่รับผิดชอบหมู่บ้าน

 

เพื่อนัดหมายออกมาฉีดซีน และขอให้ผู้ใหญ่เห็นใจลูกหลาน ที่เป็นเด็กเล็ก เด็กนักเรียน ที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ และลดโอกาสการติดเชื้อ ป้องกันความรุนแรง จากการติดเชื้อให้กับตนเอง สามารถเลือกสูตรวัคซีนได้ โดยการไปรับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

ที่มา มติชนออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง