รีเซต

PRMดีมานด์น้ำมันเจ็ตดีด เล็งซื้อเรือใหม่-ดีลM&A

PRMดีมานด์น้ำมันเจ็ตดีด เล็งซื้อเรือใหม่-ดีลM&A
ทันหุ้น
7 กันยายน 2566 ( 08:24 )
108

PRM ดีมานด์น้ำมันเจ็ตฟื้นตัวขึ้น การท่องเที่ยวหนุน จ่อขายเรือ FSU 1 ลำ ภายในปีนี้ เดินหน้าลงทุนเรือต่อเนื่อง ต่อยอดเติบโต มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตตามเป้าที่ 10% ด้านโบรกคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 2.2 พันล้านบาท โต 39% จากปีก่อน และยังมีโอกาส Upside หากสามารถซื้อเรือใหม่เพิ่มรวมถึงดีล M&A ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท

 

นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์  ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 ความต้องการน้ำมันยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยน้ำมันอากาศยาน (Jet-A1) มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ  แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนในครึ่งปีแรกจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่สูงมากนัก แต่ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มจะมากขึ้น ปัจจุบันการขนส่งน้ำมัน Jet-A1 อยู่ที่ 7% แม้จะลดลงก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 20% แต่ระดับดังกล่าวถือว่าเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่การขนส่งน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

*ดีมานด์น้ำมันหนุน

 

ทั้งนี้ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศ (Domestic Trading)  อัตราการใช้บริการ (Utilization Rate) อยู่ที่ราว 90% ส่วนเรือเขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมกลางทะเล (FSU) ยอมรับว่าดีมานด์อาจจะลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่บริษัทมีแผนที่จะขายเรือ FSU 1 ลำ ขนาด 300 ล้านลิตร เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ราคาเหล็กอยู่ในระดับราคาที่ดี ประกอบกับเรือมีอายุมากแล้ว ทำให้บริษัทพิจารณาที่จะขายเรือส่วนนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้และรับรู้กำไรเข้ามาในงบการเงินได้ทันปีนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ขณะที่ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศหรือ  VLCC รวมไปถึงเรือ Crew Boat ยังมีดีมานด์ที่ดีต่อเนื่อง

 

พร้อมกันนี้บริษัทยังเดินหน้าในการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติมอีก 1 ลำจากก่อนหน้านี้มีการลงทุนไปแล้ว 1 ลำ รวมไปถึงการลงทุนเรือ Accommodation Work Barge (AWB) อีก 1 ลำ และซื้อเรือ crew boat เพิ่ม 1 ลำ เดือนพฤศจิกายน นี้  ทั้งนี้ปัจจุบันมีเรือทั้งสิ้นกว่า 50 ลำ ดังนั้นจากความต้องการน้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เชื่อว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่บริษัทมีรายได้รวม 7,785.34 ล้านบาท

 

ขยายธุรกิจ-M&A

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง PRM ว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ธุรกิจ offshore จะเติบโตโดดเด่นสุดใน ครึ่งปีหลัง 2566 จากเรือทุกลำที่ให้บริการได้เต็มที่ และรับ Crew Boat เพิ่ม 1 ลำ เดือน พฤศจิกายน 2566 2. Domestic Trading ยังเติบโตดีต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวและเที่ยวบินฟื้นตัว และรับเรือใหม่เพิ่ม 1 ลำ เดือนตุลาคม 2566

 

3. International Trading จะดีขึ้นเล็กน้อยจากเรือ Aframax ที่มีจำนวนวันให้บริการเพิ่มขึ้น, 4. FSU จะชะลอตัว เนื่องจากจะมีการขายเรือ 1 ลำ ใน ไตรมาส 3/2566  ทำให้จำนวนเรือ FSU เหลือ 5 ลำ และ 5. ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า PRM จะมุ่งเน้นขยายธุรกิจ Offshore และ Domestic Trading มากสุด ทั้งการเพิ่มเรือ, ขยายบริการใหม่ๆ รวมถึงการทำ M&A

 

ประมาณการกำไรปกติปี 2566  ที่ 2.2 พันล้านบาท +39% จากปีก่อน  โดย ครึ่งปีแรก 2566 คิดเป็น 49% จากทั้งปี สำหรับกำไรปกติ ไตรมาส 3-4/2566  จะดีขึ้นจาก ไตรมาส 2/2566 ได้ต่อเนื่อง จากการเพิ่มเรือใหม่, มีเรือเข้า Dry Dock ลดลง และการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วยให้ความต้องการขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ดี คาดกำไรปกติ ไตรมาส 3/2566  จะกลับมาเติบโตได้ทั้ง จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า และจะมีกำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU จำนวน 1 ลำ ขณะที่ ไตรมาส 4/2566  ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น นอกจากนั้น กำไรยังมีโอกาส Upside หากสามารถซื้อเรือใหม่เพิ่มรวมถึงดีล M&A ด้าน Valuation ยังน่าสนใจคิดเป็น 2566  Core PER ที่ 7.4 เท่า (-1.25SD)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง