ชาวเมียนมา 33 ชีวิต ทะลักเข้าไทย เผยจ่ายให้นายหน้า เฉียด 2 หมื่นบาท
ทหารสกัดจับ ชาวเมียนมา ลอบเข้าไทยอีก 33 ชีวิต บริเวณเขาสิงโต จ.กาญจนบุรี รับยอมจ่ายค่านายหน้า หัวละเกือบ 2 หมื่นบาท แลกกับการหางานทำ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2564 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมแรงงานชาวเมียนหลบหนีเข้าไทย 33 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 7 ราย ได้ที่บริเวณเขาสิงโต ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
จากการตรวจสอบไม่ผู้ที่มีอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาฯ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจสอบอาการอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจของเจ้าหน้าที่
พ.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมจงอั่ว ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นแรงงานชาวเมียนมา เดินอยู่ภายในป่าบริเวณเขาสิงโต พื้นที่ ม.4 ต.ปรังเผล
หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจดังกล่าว จึงสนธิกำลังเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงบริเวณเขาสิงโต พิกัด MS 569522 พบกลุ่มบุคคลตามที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันปิดล้อม พร้อมแสดงตัวและส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดเพื่อขอตรวจสอบ
จากการขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง พบว่าแรงงานทั้งหมดไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม และจากการสอบสวนกลุ่มแรงงานให้การว่า ทั้งหมดอาศัยอยู่ที่ จ.เมาะละแหม่ง ประเทศเมียนมา โดยได้มีการนัดหมายกับผู้นำพาที่เป็นนายหน้าชาวเมียนมาให้มาพบกันตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเมียนมา จากนั้นทุกคนจะเดินทางมาทางเรือ
เมื่อมาถึงจุดนัดหมายผู้นำพาจึงนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าและหุบเขาเพื่อข้ามชายแดนมายังฝั่งประเทศไทย โดยจะมีคนมารับไปทำงานในพื้นที่จ.สมุทรปราการ จ.ราชบุรี และกรุงเทพฯ โดยจะจ่ายเงินให้กับนายหน้าเมื่อไปถึงที่ทำงานคนละ 16,000-18,000 บาท แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
หลังจากแรงงานชาวเมียนมาให้การยอมรับสารภาพ จึงได้นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านพม่าจ.กาญจนบุรี พิจารณาว่าจะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือจะตัวส่งศูนย์ฝากกักตัว เพื่อรอผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
พ.อ.เฉลิมพล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมาได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจังหวัดกาญจนบุรี จะร่วมกันสนธิกำลังกันทุกฝ่ายในการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีระยะทางถึง 371 กิโลเมตรแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถเล็ดรอดเข้ามาได้