นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานในรอบ 60 วัน เน้นเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส
นายกรัฐมนตรี ออกรายการพิเศษแถลงผลงานในรอบ 60 วันที่ผ่านมา เน้นเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 20.20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกรายการพิเศษ ‘Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน’ เพื่อบอกเล่าการทำงานของรัฐบาลในช่วง 60 วันที่ผ่านมา
มาตรการเร่งด่วน เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส
เรื่องแรก นายกรัฐมนตรีพูดถึงมาตรการเร่งด่วนที่ได้ดำเนินการตลอด 60 วันที่ผ่านมา คือ การลดรายจ่าย โดยเฉพาะค่าไฟ จาก 4.45 บาท เป็น 4.10 บาท และลดลงอีกเหลือ 3.99 บาท เป็นวิธีการทำงานของรัฐบาล อะไรทำได้เราทำก่อน ถ้าทำได้อีก ก็จะทำให้ เพราะตระหนักดีว่าประชาชนเดือดร้อนมาโดยตลอด ถ้าเกิดต้องคอยให้ทุกอย่างครบหมด แล้วค่อยทำบางทีอาจจะช้าเกินไป เช่นเดียวกับการลดราคาค่าน้ำมันดีเซลและเบนซิน
นอกจากนี้ ยังมีการลดดอกเบี้ยและพักหนี้เกษตรกร และเรื่องที่จะต้องทำต่อไป คือการปัญหาหนี้ครัวเรือน จะมีการลดหนี้ของหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน มีผู้ทำผิดกฎหมายเรื่องการชาร์จดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้ประชาชนจ่ายเงินไปแล้วแต่เงินต้นไม่ลด จึงต้องมีการบูรณาการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน คาดว่าภายในอาทิตย์นี้หรืออาทิตย์หน้าจะมีการแถลงข่าวของเรื่องนี้ เพื่อให้นำไปปฏิบัติได้ภายในกลางเดือนธันวาคมนี้
สำหรับการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีหลายมิติ อย่างดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) วันที่ 10 พ.ย. จะมีการแถลงพร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มาที่ไปของเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใครได้รับบ้าง เป็นเรื่องของใช้กับสินค้าประเภทใดได้บ้าง กับระยะทางที่กำหนดไว้ตามบัตรประชาชนเป็นกิโลหรือเป็นอำเภอหรือเป็นตำบล
ส่วนการเพิ่มรายได้ขยายโอกาสและให้ความรู้เกษตรกรถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนอยู่ในภาคเกษตรกรรม หลาย 10 ล้านคน เราต้องให้องค์ความรู้เรื่องการทำการเกษตร เป็นหน้าที่รัฐบาลโดยเฉพาะการใช้กลไกลการตลาด ไปเปิดตลาดใหม่ ๆ เช่น แอฟริกา กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เมื่อเปิดตลาดใหม่ก็มีการขยายโอกาส ขยายรายได้ และเชื่อว่าราคาพืชผลจะขยับขึ้นตามได้
การท่องเที่ยว
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการเพิ่มรายได้อีกส่วนหนึ่งของประเทศ รัฐบาลได้มีการให้วีซ่าฟรีจีน ไต้หวัน อินเดีย ตามเข้ามา
ส่วนของการเปิดวีซ่าฟรีให้กับคาซัคสถานนั้น อย่าลืมว่า คาซัคสถานคือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย ประชากรมีรายได้สูง จากสถิติที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถานมาเที่ยวยังประเทศไทยแถบจังหวัดพังงาค่อนข้างสูง จึงต้องมาดูเรื่องของสายการบินที่บินตรง และก็คงจะดูต่อไปว่าสามารถทำตรงไหนได้อีก อย่างที่ปัจจุบันเราเปิดโอกาสให้รัสเซียสามารถเข้ามาอยู่ได้ 30 วัน และขณะนี้หน่วยงานกำลังพิจารณาว่าจะมีการอำนวยความสะดวกให้สามารถอยู่เกิน 30 วันได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลได้มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องของสนามบิน ประชาชนต้องมีความสบายใจว่าประเทศเราทีการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น รวมทั้งระยะเวลาในการอยู่ก็สำคัญเช่นกัน ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองเกิด ไม่ใช่มาแค่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน
การคมนาคม
ขณะที่เรื่องการคมนาคม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญเพราะการคมนาคมเชื่อมต่อไปทั่วประเทศ โดยเมื่อครั้งเดินทางไปประชุมที่ประเทศจีน ได้มีการพูดคุยการเชื่อมโยง Logistic ทั้งภูมิภาค เช่น เรื่องรถไฟความเร็วสูงที่เรามีการก่อสร้างจากกรุงเทพฯไปโคราช , โคราชไปขอนแก่น , ขอนแก่นไปหนองคายข้ามไปลาว และเชื่อมไปยังจีน ที่จะช่วยขนส่งสินค้าเกษตรที่ประเทศไทยมีศักยภาพสูง ไปขายยังต่างประเทศ แต่ระหว่างที่ดำเนินการเรื่องรถไฟความเร็วสูงต้องมีทำรางคู่ก่อน และบางจุด ต้องมียุทธศาสตร์สำคัญ เช่น สะพานข้ามจากหนองคายไปลาว เรื่องนี้มีการตกลงกันในช่วงที่เดินทางไป สปป. ลาว
การเดินทางไปต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ว่า การเดินทางเข้าร่วมประชุม UNGA ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ไปเจอผู้นำต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันเรื่องของภูมิศาสตร์ มีความร้อนแรงอยู่มาก ทั้งจีน-สหรัฐ และยูเครน-รัสเซีย ซึ่งสหประชาชาติเองก็ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในปีนี้ธีมใหญ่คือเรื่องของพลังงานสะอาด (SDG) ทุกคนเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการให้ดี เราได้ไปพูดในหลายเวที ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้สีเขียวซึ่งจะมีการระดมทุน (Raise Fund) เป็นการแสดงเจตจำนงให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทย มีความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว เราใส่ใจเรื่องนี้ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการที่จะทำให้เป็น Net Zero Carbon
นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสพบกับบริษัทใหญ่ ๆ ที่สนใจมาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมากและในสัปดาห์หน้าที่จะเดินทางไปที่ซานฟรานซิสโก เพื่อร่วมประชุม APEC
อุปสรรคใน 60 วันที่ผ่านมา
“60 วันที่ผ่านมา ในชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม จริง ๆ แล้วเราอาสาเข้ามาทำงาน ไม่มีสิทธิ์บอกว่าเหนื่อย ไม่มีสิทธิ์บอกอะไร แต่ว่าอุปสรรคสำคัญที่สุดก็คือเวลาไม่พอ เวลาไม่พอทุกอย่าง เวลาไม่พอในการทำงาน เวลาไม่พอในการนอนเพราะต้องมีงานพูดคุย ต้องมีงานทำอะไรหลาย ๆ อย่าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนท้ายถึงเรื่องที่อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่า เรื่องใหญ่ก็คือเรื่องของปากท้อง ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ ทำทุกเรื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และลืมเหน็ดเหนื่อย เหนือสิ่งอื่นใด ทุก ๆ ภาคส่วนต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ และต้องคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin / รัฐบาลไทย