อีกแค่ 3 ปี เวียดนามแซงไทย ขึ้นเบอร์ 2 อาเซียน l World Wide Wealth

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าที่สหรัฐเกินดุลอย่างหนัก โดยเฉพาะปีที่ผ่านเกินดุลกว่าแสนล้านดอลลาร์ สูงเป็นลำดับที่ 4 รองจากจีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก จึงทำให้ล่าสุดโดนรีดภาษีตอบโต้หรือภาษีศุลกากรนำเข้าสูงถึง 46 % มากกว่าไทยที่โดนเรียกในอัตรา 36 % และระหว่างนี้ทุกชาติโดยเฉพาะอาเซียนของเราก็กำลังเร่งหาทางและรอการเจรจาต่อรองภาษี กับทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ในช่วงเวลาระงับใช้ภาษีดังกล่าวชั่วคราว 90 วัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2568 ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวต่อรัฐสภาว่า เวียดนามกำลังเผชิญกับความท้าทายมากกว่าโอกาส จากภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯที่สูงถึง 46 % แต่ยังคงตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างน้อย 8% ในปีนี้ โดยระบุด้วยว่าษีศุลกากรของสหรัฐฯ กำลังคุกคามห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเป็นฐานการผลิตระดับภูมิภาคที่สำคัญของบริษัทตะวันตกหลายแห่ง และมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ กว่า 123,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (CEBR) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจในลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยอ้างอิงจากรายงาน World Economic League Table คาดการณ์ว่า เวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองเพียงแค่อันดับหนึ่งอย่างอินโดนีเซีย และใหญ่เป็นอันดับที่ 20 ของโลกภายในปี 2579