รู้ตัวมือยิงถล่มบ้านผู้พิพากษาหญิงมะกัน ทนายต้านสตรีนิยม-เหยียดเพศ

รู้ตัวมือยิงถล่มบ้านผู้พิพากษาหญิงมะกัน ทนายต้านสตรีนิยม-เหยียดเพศ

รู้ตัวมือยิงถล่มบ้านผู้พิพากษาหญิงมะกัน - วันที่ 21 ก.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานความคืบหน้าคดียิงถล่มสุดอุกอาจ บ้านผู้พิพากษาหญิงที่ย่านนอร์ธ บรันสวิก รัฐนิว เจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สามีได้รับบาดเจ็บ และบุตรชายคนเดียวอายุ 20 ปี เสียชีวิต ว่า เจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว เป็นทนายความที่มีแนวคิดต่อต้านกลุ่มเรียกร้องสิทธิให้กับสตรี หรือเฟมินิสต์

ทนายความคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังว่า นายรอย เด็น ฮอลแลนเดอร์ มีประวัติแสดงความคิดเห็นต่อต้านกลุ่มเฟมินิสต์ เหยียดผู้หญิง และเชื้อชาติ โดยเฉพาะคนผิวดำ และเชื้อชาติเอเชีย พร้อมกล่าวหาว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นพวกลวงโลกและพยายามทำให้คนผิวขาวเสียภาพพจน์

โดยนายฮอลแลนเดอร์ เคยเขียนข้อความทำนองนี้ไว้บนเว็บไซต์ของตัวเอง และเคยยื่นฟ้องต่อศาลกลางกรณีสถานบันเทิงกลางคืนจัดกิจกรรม "เลดี้ส์ ไนต์" ซึ่งอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าใช้บริการได้เท่านั้น ว่าละเมิดมาตราที่ 14 แห่งรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ยังเคยว่าความต่อต้านข้อกฎหมายต่อต้านความรุนแรงต่อสตรี ว่าผิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ พร้อมขนานนามกฎหมายดังกล่าวว่า "กฎหมายของสตรีลวงโลก" รวมถึงต่อต้านโครงการรับนักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่รัฐนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากหน่วยสืบสวน ระบุว่า นายฮอลแลนเดอร์นั้นเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากบาดแผลกระสุนปืน คาดว่าอาจเป็นการฆ่าตัวตาย โดยตำรวจพบว่า นายฮอลแลนเดอร์ เคยเขียนเอกสารระบายอารมณ์ ที่เต็มไปด้วยข้อความเกลียดชังยาวถึง 152 หน้า

โดยในเอกสารดังกล่าว นายฮอลแลนเดอร์ กล่าวถึงหนทางแก้ไขปัญหาไว้ตอนหนึ่งว่า "หลายอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปหากบรรดาผู้ชายเริ่มหันมาไล่ฆ่าพวกคนที่ต้องรับผิดชอบต่อการทำลายชีวิตของพวกเขา แล้วจากนั้นค่อยฆ่าตัวตายตาม"

ด้านความเชื่อมโยงกับผู้พิพากษาหญิง เอสเธอร์ ซาลัส เจ้าหน้าที่พบว่า นายฮอลแลนเดอร์ เคยว่าความต่อหน้าผู้พิพากษาเพียงคดีเดียว โดยนายฮอลแลนเดอร์เป็นตัวแทนของลูกความหญิง ที่ยื่นฟ้องต่อศาล กรณีไม่ได้รับอนุญาตจากกองทัพให้สมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพราะผิดกฎหมาย

ผู้พิพากษาหญิง ซาลัส ไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างทางกฎหมายของนายฮอลแลนเดอร์ แต่ก็เห็นด้วยกับจุดยืนในประเด็นสิทธิความเท่าเทียมของสตรีในกองทัพ จึงรับเรื่องไว้พิจารณาต่อ แต่อัยการฝ่ายรัฐโอนคดีให้กับบริษัทเอกชนมาว่าความแทนเมื่อเดือนมิ.ย. 2562

เช่นเดียวกันกับนายฮอลแลนเดอร์ที่ขอให้บริษัทว่าความเอกชนเข้ามาทำงานแทนตน โดยระบุเหตุผลว่า "ป่วยหนัก" ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายฮอลแลนเดอร์ ถูกพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 แต่ตำรวจยังไม่พบว่า นายฮอลแลนเดอร์ และผู้พิพากษาขัดแย้งเรื่องอื่นใดอีก

ทว่า ตำรวจพบหลักฐานเป็นเอกสารที่นายฮอลแลนเดอร์ เคยเขียนโจมตีผู้พิพากษาหญิงไว้ด้วยถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ และเหยียดเพศ โดยอ้างว่า ชีวิตว่าความของตนนั้นมักเผชิญความยากลำบากเสมอกับผู้พิพากษาหญิงที่มีเชื้อชาติละตินอเมริกัน และกล่าวหาว่า เพราะคนเหล่านี้ป่วยทางจิตเป็นพวกมีปมด้อย (Inferiority Complex)

นายฮอลแลนเดอร์ ยังกล่าวอ้างถึงลัทธินิยมคนผิวขาว และโจมตีคนผิวสี ว่ากำลังพยายามกล่อมให้ชาวอเมริกันเชื่อ ว่าคนผิวขาว โดยเฉพาะพวกผู้ชายผิวขาว ว่าเป็นคนเถื่อน ส่วนพวกตัวเองนั้นเล่นบทเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

เช่นเดียวกันกับที่นายฮอลแลนเดอร์ เคยกล่าวไว้ในรายการ The New Yorker ว่า "พวกเฟมินิสต์เข้าควบคุมสถาบันหลักๆ ของประเทศนี้ไว้หมดแล้ว พวกมันต้องการแย่งอำนาจไปจากผู้ชาย" และว่า "ผมจะสู้กับพวกมันจนถึงเงินดอลลาร์ และลมหายใจสุดท้ายของผม"