รีเซต

ทส.เปิดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง‘ชิงเก็บก่อน’10จว.เหนือลดไฟป่า-ฝุ่น

ทส.เปิดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง‘ชิงเก็บก่อน’10จว.เหนือลดไฟป่า-ฝุ่น
ข่าวสด
28 ธันวาคม 2563 ( 15:42 )
156

รมว.ทส.เปิดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง ชิงเก็บเชื้อเพลิง 10 จว.ภาคเหนือ ส่งเสริมชุมชนนำเชื้อเพลิงไปแปรรูปสร้างรายได้ ช่วยลดการเกิดไฟป่า และลดปริมาณฝุ่นPM2.5

 

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่โรงเรียนแม่แจ่ม ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นประธานเปิด"โครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง" โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน เข้าร่วมงาน

 

นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างมาก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เราจึงมีมาตรการ “ชิงเก็บก่อน” คือ การเก็บเศษใบไม้ที่จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ หรือนอกเขตป่า

 

 

โดยร่วมบูรณากับทุกภาคส่วนและชุมชนในพื้นที่สามารถนำเศษใบไม้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น นำเอาใบไม้ไปบดอัดและเผาจนกลายเป็นถ่านอัดแท่ง หรือนำไปแปรรูปเป็นสินค้าชนิดๆ อื่น ขณะเดียวกัน ก็มีบริษัทห้างร้านเอกชนเข้ามาขอซื้อเศษวัสดุ ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านสามารถนำไปขายสร้างรายได้ได้ ขณะเดียวกันเราก็สามารถลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าไปด้วย

 

"หากทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ หรือพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า สามารถเก็บเชื้อเพลิงได้อย่างน้อยจังหวัดละ 100 ตันก่อนช่วงจะเกิดไฟป่า ในช่วงกลางเดือนก.พ.ของทุกปี เชื่อว่าจะลดปัญหาการเกิดไฟป่า ลดปัญหาฝุ่นละอองจากหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ และจะสามารถลดการเกิดจุดความร้อนได้อย่างน้อยร้อยละ 20 ตามเป้าหมายแน่นอน อีกทั้งยังสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเผาป่ามาสู่การใช้ประโยชน์จากป่าได้อย่างยั่งยืน"

 

 

นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ เป็นหน่วยงานในการป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งได้เตรียมพร้อมในทุกมิติของการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันและควบคุมไฟป่า และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไฟป่าที่จะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้จึงได้จัดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิง ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยจัดกิจกรรมพร้อมกันใน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ตาก และพิษณุโลก

 

สำหรับพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า กรมป่าไม้ได้ใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงใน 2 ระบบ คือ โมดิส (MODIS) และระบบเวียร์ (VIRS) มาวิเคราะห์พื้นที่สุ่มเสี่ยง หากพบว่าพื้นที่ใดมีเศษวัสดุมีจำนวนมาก ก็จะให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปชิงเก็บเศษวัสดุก่อนเกิดช่วงไฟป่า

 

นอกจากนี้กรมป่าไม้ยังดำเนินการมาตรการเชิงรุกด้วยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน ให้ชุมชนได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบของไฟป่า เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ เกิดความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในการดูแล เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมไฟป่า

ชุมชนสามารถนำเชื้อเพลิงจากป่ามาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อลดต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรกรรม และมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าในพื้นที่อย่างจริงจังในช่วงวิกฤต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมไฟป่า และช่วยให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าประสบผลสำเร็จ ทันต่อสถานการณ์

ทั้งนี้ภายในงาน กรมป่าไม้ได้สาธิตกิจกรรมต่าง เช่น การเก็บขนใบไม้ กิ่งไม้แห้งที่ร่วงหล่นในพื้นที่ป่าแล้วนำมาเข้าเครื่องอัดใบไม้ เครื่องบดสับใบไม้กิ่งไม้, การขนส่งใบไม้อัดแท่งออกจากพื้นที่ป่าโดยใช้โดรน, การจัดการเชื้อเพลิงตามหลักวิชาการ โดยทำแนวกันไฟ (Firebreak) ในพื้นที่ป่าระยะทางประมาณ 500 เมตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง