'โควิด' คร่าชีวิต อสม. หลังลงพื้นที่ชวนชาวบ้านฉีดวัคซีน เรียกตรวจเชื้อยกหมู่บ้าน

'โควิด' คร่าชีวิต อสม. หลังลงพื้นที่ชวนชาวบ้านฉีดวัคซีน เมียยันไม่เคยออกนอกหมู่บ้าน เรียกตรวจเชื้อยกหมู่บ้าน หาต้นตอ เชื่อยังอยู่ในชุมชน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำร่างของเจ้าหน้าที่ อสม.บางตีนเป็ด อายุ 52 ปี และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตรายที่ 6 ของ จ.ฉะเชิงเทรา มาฌาปนกิจ ที่วัดสุวัณณะศรีตัณฑิกุล (ดอนทอง) ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยแพทย์วินิจฉัยโรคว่า ภาวะปอดอักเสบ และติดเชื้อโควิด-19

โดยมีภรรยา ลูกชาย และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตบางส่วน เดินทางมาร่วมการฌาปนกิจศพครั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระบบการกักตัว หลังไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยทำการ 'สวอบ' ที่โรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อรถของหน่วยกู้ภัยมาถึง ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตที่ห่อถุงซิบ 3 ชั้น และบรรจุในโลงศพปิดฝาสนิท ขึ้นบนเมรุเผาศพทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโดยรอบสถานที่และรถที่บรรทุกศพมา

ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีมีโรคประจำตัวคือ ความดันและเบาหวาน ซึ่งสามีทำอาชีพขับวินจยย.ภายในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียง ตนไม่ทราบว่าสามีไปติดเชื้อโควิดมาจากไหน เพราะไม่เคยออกไปไหนนอกหมู่บ้าน โดยสามีเริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พ.ค. บอกกับตนว่ามีอาการเมื่อยล้า

กระทั่งวันที่ 13 พ.ค. ได้เดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลครั้งแรก เพื่อรักษาโดยไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิด เพราะสามีมีอาการแค่ปวดเมื่อยตัว กระทั่งกลับบ้านมา สามีเริ่มมีอาการปรากฏชัดขึ้นคือ มีไข้อ่อนๆ และไอ จนวันที่ 16 พ.ค. สามีเริ่มมีอาการหนัก หายใจไม่ออก จึงเร่งนำตัวส่ง ร.พ.พุทธโสธร ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พ.ค.

ขณะที่ นางสกาวรัตน์ เจริญวัฒนะ ผอ.ร.พ.สต.บางตีนเป็ด เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็น อสม.และทำงานเชิงรุกร่วมกับ ร.พ.สต. ซึ่งวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตและ อสม.คนอื่นๆ ได้ลงพื้นที่ตามบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ เพื่อรณรงค์และสำรวจสอบถามให้มาฉีดวัคซีนโควิด-19

ซึ่งตนอยากฝากเชิญชวนให้ประชาชนทั้งหมดของหมู่บ้าน มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. ที่วัดดอนทองแห่งนี้ และในค่ำคืนนี้ขอความร่วมมืองดการเดินทางออกนอกพื้นที่ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะทำการสอบสวนโรคเพิ่มเติม เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่เคยออกไปนอกชุมชน จึงอาจมีคนในชุมชนที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการได้สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต

จึงต้องเร่งปูพรมดำเนินการค้นหาโดยด่วน เพื่อหาผู้มีเชื้อเร่งนำตัว เข้าสู่ระบบการรักษาทันที ส่วนประชาชนที่สอบสวนโรคแล้วที่มีความเสี่ยงสูงจะให้กักตัวอยู่บ้าน สังเกตอาการหากพบมีอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งทาง รพ.สต.ในพื้นที่ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจะได้มารับตัวไปรักษาต่อไป