'อนุทิน' ขอบคุณ อสม. ค้ำยันระบบสาธารณสุข สอนแยงจมูกด้วย ATK ก่อนบอกต่อ ปชช.
เมื่อวันที่ 16 กันยาน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.ภานุวัฒน์ ปานเหตุ รองอธิบดี สบส. ประชุมทางไกลร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ มอบนโยบาย “อสม. พร้อมบอกต่อเรื่อง ATK สำหรับประชาชน”
นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ระยะหลังเริ่มทรงตัว แนวโน้มไปในทิศทางดีขึ้น แม้ยังมีการระบาดจำนวนมาก แต่สถานพยาบาลมีอัตราการว่าง มีความพร้อมของยา เวชภัณฑ์ และแพทย์ ตอนนี้ค่อนข้างคลายตัวลง สามารถให้บริการผู้ติดเชื้อที่จำเป็นต้องรับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ขณะที่เรามีวิกฤตอย่างรุนแรงในเดือน ก.ค. นั้น กรุงเทพฯ จะมีภาพผู้ป่วยติดอยู่ที่บ้าน ไม่มีรถพยาบาลไปรับ เตียงที่โรงพยาบาล (รพ.) เต็ม ล้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดในต่างจังหวัด แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สธ. ทั้งนี้ กรุงเทพฯ มี อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) แต่ต่างจังหวัดมี อสม.ทั่วทุกหมู่บ้าน ทั่วทุกตำบล ที่ต่างจังหวัด มี รพ.จังหวัด รพ.อำเภอ ตลอดจนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และมี อสม.มาดูแลผู้ป่วย จึงมีการหารือกันในการผ่องถ่ายให้ผู้ป่วยไปรักษาตัวตามภูมิลำเนา ขณะนี้ได้นำผู้ป่วยกลับไปรักษาภูมิลำเนาเกือบ 3 แสนคน
นายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เนื่องจากมีการจัดหาชุด ATK มารองรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอผลแล็บ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการขึ้นทะเบียนชุดตรวจ ATK ที่มีคุณภาพ ด้วยเหตุนี้จึงต้องรบกวนทาง อสม. ในการช่วยแนะนำการตรวจโควิดด้วยตัวเองแก่ประชาชนในพื้นที่ของท่าน ซึ่งบางคนตรวจเองได้ แต่บางคนยังไม่สามารถตรวจได้เอง ต้องมีคนแนะนำ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจด้วย ATK ก็จะสามารถคัดกรองได้มากขึ้น และเรายังมีระบบการรักษาที่เรียกว่า การแยกกักที่บ้าน Home Isolation หรือการแยกรักษาตัวในชุมชนที่เรียกว่า Community Isolation โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในอัตรามาตรฐาน โดย 80% ของผู้ติดเชื้อมีสุขภาพดี ยกเว้นกลุ่ม 608 ที่อายุมากหรือมีโรคประจำตัว อาจมีการเปลี่ยนเป็นอาการหนัก แต่เมื่อขึ้นทะเบียนในระบบก็สามารถนำส่งรพ.ได้ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยแก้ปัญหาคอขวดความหนาแน่นใน รพ.ได้
“วันนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดสะสมกว่า 40 ล้านเข็ม และกลางเดือน ต.ค. พี่น้องอสม.อีก 3 แสนคน จากที่มีอยู่กว่า 1 ล้านคน ซึ่งเราฉีดไปแล้วกว่า 70% อีก 3 แสนคนจะได้รับวัคซีนเต็มที่ 100% ดังนั้น ภารกิจในการดูแลคน การสอนการใช้ชุดตรวจ ATK จะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม 3 แสนคนที่ยังไม่ได้ฉีด เพราะคิวยาว เนื่องจากมีคนสูงอายุด้วย ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคอยู่ในการประชุมครั้งนี้ ขอให้ท่านตัดบัญชีส่งวัคซีนให้พี่น้องอสม.ด้วย ขาดไม่ได้ สำหรับ 3 แสนคนอย่าน้อยใจว่าทำไมไม่อยู่ในกลุ่มแรก อาจเป็นเรื่องโชคดี เพราะช่วงหลังพบสูตรการฉีดวัคซีน ซิโนแวคเข็มแรก และตามด้วยแอสตร้าเป็นเข็มสอง ใช้เวลาระหว่างเข็มเพียง 3 สัปดาห์ แต่ภูมิคุ้มกันกลับสูงกว่าซิโนแวค 2 เข็ม หรือมีความทัดเทียมกับแอสตร้าฯ 2 เข็ม ดังนั้น 3 แสนคนสุดท้ายจะได้รับซิโนแวค จากนั้นได้แอสตร้า ส่วนผู้ที่ได้รับซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม สามารถมาบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ ทุกคนจะมีความปลอดภัย ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด จัดหามาแล้วและจะกระจายให้กับประชาชน โดยมี อสม. คอยให้คำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากการสอนวิธีการตรวจแล้ว ในเรื่องการกำจัดชุด ATK ที่ใช้แล้วยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากทิ้งไม่ถูกสุขลักษณะย่อมทำให้เชื้อโรคกระจายได้ ไม่ใช่แค่โรคโควิด-19 แต่อาจมีเชื้ออื่นๆ ทั้งหวัด วัณโรค เชื้อทางเดินหายใจ พี่น้อง อสม.ต้องระวัง ต้องทิ้งแยก เพราะถือเป็นขยะติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะการประชุมทางไกล นายอนุทิน ได้สาธิต การตรวจเชื้อโควิดด้วยชุด ATK ที่ทาง สปสช.จัดหา ยี่ห้อ เล่อปู่ พร้อมทั้งแนะนำการใช้ และวิธีการเก็บทิ้งที่ต้องบอกประชาชนว่า อย่าทิ้งลงขยะทั่วไปทันที แต่ต้องจัดเก็บในถุงซิปล็อกที่มากับชุดตรวจ และหาถุงมัดอีกรอบและแยกทิ้งให้ชัดเจนว่า เป็นขยะติดเชื้อ โดยก่อนทิ้ง ให้พี่น้องอสม. ถ่ายรูปผลการตรวจก่อนทุกครั้ง
นายอนุทิน กล่าวว่า นี่คือ หน้าที่ของหมอคนแรก คือ อสม. จาก 3 หมอ หากทำให้ชาวบ้านได้เอง ก็ต้องมีชุดป้องกัน อาจไม่ต้องถึงขั้นชุด PPE แต่ขอให้มีหลักการในการป้องกันโรค ทั้งหมดนี่เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันโรคครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention โดยหลักคือ ให้ระวังทั้งหมด
“ผมไม่เคยลืมพระคุณ ของ อสม. กระทรวงสาธารณสุขอยู่รอดทุกวันนี้ เพราะเรามี อสม. แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทุกครั้ง ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มสลาย เรามี อสม. 1 ล้านคน ค้ำยันอยู่ และยังมีแพทย์ มีองค์ความรู้มีประสบการณ์ทั้งหลายมาประกอบเป็นขา 4 ขา อสม.คือ ขาหนึ่ง องค์ความรู้ทางการแพทย์ แพทย์พยาบาล งบประมาณที่เรามีอยู่ประกอบเป็น 4 ขา ทำให้ระบบสาสธารณสุขเรามีความแข็งแกร่ง รับรองไม่มีการล้มสลายได้ตามคำปรามาสของใครเป็นอันขาด” นายอนุทิน กล่าวและว่า ช่วงนี้จะอัดวัคซีนเต็มที่ จะมาอย่างต่อเนื่อง เพราะวัคซีนนิ่งแล้ว และเราไม่กังวลว่า มาแล้วจะขาด จะต้องรอเข็ม 2 ตอนนี้เราสั่งไปถึงปีหน้าแล้ว เป็นเข็มเติมภูมิฯ น่าจะมีความเพียงพอ เมื่อถึงระยะหนึ่งเราจะอยู่กับโควิด และเปิดประเทศได้ เพียงแต่เราป้องกันตัวเองให้มากขึ้น
ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินการของ อสม.ในการป้องกันโควิด-19 โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ก.ย.64 พบว่า อสม.ได้แนะนำให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 4,800,059 ราย แบ่งเป็นไลน์หมอพร้อม 8.1 แสนราย ลงทะเบียนผ่าน รพ.สต./หน่วยบริการสุขภาพ 3.7 แสนราย และ ผ่าน Smart อสม. 1.8 แสนราย ทั้งนี้ การดำเนินการ อสม.ติดตามการฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง 608 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี โรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนโควิด และแยกกักรักษาตัวผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน มีจำนวน 3,538,733 คน ได้รับวัคซีนแล้วจำนวน 1,165,750 คน หรือคิดเป็น 33%
นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวว่า อสม.เองได้ช่วยอำนวยความสะดวกในจุดบริการวัคซีนด้วย ดูแลผู้ป่วยร่วมกับโครงการ 3 หมอในการดูแลผู้ป่วยโควิดที่แยกกักในชุมชน(Community Isolation) จำนวน 5,201 แห่ง และที่แยกกักที่บ้าน(Home Isolation) อีก 27,804 ราย นอกจากนี้ อสม.ยังเฝ้าระวังแรงงานกลับบ้าน โดยเฝ้าระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 306,321 ราย ติดตามกลุ่มเสี่ยงครบ 14 วัน 259,158 ราย มีอาการสำคัญและส่งต่อเจ้าหน้าที่ 16,207 ราย อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินงานของ อสม. เกิดผลกระทบส่วนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 แบ่งเป็น อสม. 56 ราย เสียชีวิต 6 ราย และ อสส. 37 ราย เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งได้รับการเยียวยาแล้ว 46 ราย
ทั้งนี้ นายจำรัส คำรอด ประธานชมรม อสม.แห่งประเทศไทยประกาศเจตนารมณ์ อสม.พร้อมบอกต่อ ATK สำหรับประชาชนว่า จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยมีรการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีประชาชนเสี่ยงติดเชื้อจำนวนมาก รัฐบาลกระจายชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดให้ประชาชนเสี่ยงตรวจหาด้วยตนเองนั้น อสม.ทั่วประเทศมีความพร้อมบอกต่อเรื่อง ATK สำหรับประชาชนดังต่อไปนี้ 1.การใช้ชุดตรวจ 2.การแปลผลตรวจ 3.การกำจัดชุดตรวจ 4.การแนะนำปฏิบัติเมื่อทราบผลตรวจ 5.การแนะนำวิธีป้องกันแบบครบวงจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธาน อสม.นครราชสีมา ได้ขอให้นายอนุทินผลักดันโครงการเที่ยวปันสุขกลับมาอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่ต้องจัดในเร็วๆ นี้ แต่ทำเผื่อไว้เป็นการฉลองความสำเร็จที่ควบคุมโรคโควิด-19 ได้ และเรื่องการตรวจ ATK ก็ไม่ควรจะต้องทำผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งนายอนุทินตอบว่าเห็นด้วย เพราะถ้าใช้แอพฯ ก็คงไม่ต้องมี อสม. ก็จะรับไปจัดการ ส่วนเที่ยวปันสุขแปะโป้งไว้ ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมให้เต็มที่