หุ้นจีนร่วงแรง เทคเปลี่ยนทิศ เขย่าตลาดโลก

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันอังคาร ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ระมัดระวัง นักลงทุนรอปัจจัยใหม่จากสหรัฐฯ โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ ขณะที่การซื้อขายซบเซาเพราะตลาดญี่ปุ่นปิดทำการ ส่งผลให้แรงขับเคลื่อนในภูมิภาคมีจำกัด

หุ้นจีนและฮ่องกงเป็นจุดอ่อนของภูมิภาค โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.2% ส่วน Hang Seng ร่วง 1% จากแรงขายทำกำไรหุ้นเทคโนโลยี หลังพุ่งขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ หุ้น Baidu ร่วงกว่า 7% Tencent อ่อนตัว ขณะที่ Alibaba บวกเพียงเล็กน้อยแม้เพิ่งเปิดตัวโมเดล AI ใหม่ แต่ Luxshare Precision กลับพุ่งกว่า 10% จากข่าวร่วมซัพพลายอุปกรณ์ AI ให้กับ OpenAI

อินเดียเผชิญแรงกดดันใหม่หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเก็บค่าธรรมเนียมสูงขึ้นสำหรับวีซ่า H-1B กระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่พึ่งพาบุคลากรไปทำงานในสหรัฐฯ เช่น Infosys, Wipro และ Tata Consultancy Services ส่งผลให้ฟิวเจอร์สดัชนี Nifty 50 อ่อนตัวลง 0.2% และสร้างความกังวลต่ออนาคตอุตสาหกรรม Outsourcing มูลค่าเกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์

ในตลาดอื่นๆ KOSPI เกาหลีใต้บวกเล็กน้อย 0.3% จากแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี ตลาดสิงคโปร์ทรงตัว ส่วนออสเตรเลียปรับขึ้น 0.5% ได้แรงหนุนจากหุ้นเหมืองตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัว แม้ตัวเลข PMI ชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอลงก็ตาม ด้านฝั่งสหรัฐฯ แม้ Nasdaq และ S&P 500 ปิดทำสถิติสูงสุดใหม่จากแรงหนุนของ Nvidia ที่ประกาศลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI และความเชื่อมั่นต่อ Apple แต่ S&P 500 Futures ในเอเชียกลับทรงตัว แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นยังไม่แพร่ขยายทั่วโลก

ท่ามกลางความไม่แน่นอน สินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุน โดยราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในการซื้อขายเอเชีย สะท้อนชัดว่านักลงทุนยังคงแสวงหาการป้องกันความเสี่ยง