ไบเดน เสนอ ยกเลิกนโยบายจำกัดงบฯทำแท้ง ขยายสิทธิ์ทำแท้งปลอดภัย!
นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอ ยกเลิกนโยบายจำกัดงบฯทำแท้ง ขยายสิทธิ์ทำแท้งปลอดภัย ด้านกลุ่มสิทธิสตรีชื่นชม ขณะที่ฝ่ายขวาวิจารณ์หนัก
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เสนอให้งบประมาณปี พ.ศ. 2565 ยกเลิกการจำกัดการระดมทุนของรัฐบาลกลางสำหรับการทำแท้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายของรัฐบาลมานานหลายทศวรรษ
กลุ่มสิทธิสตรีและสิทธิพลเมืองซึ่งกล่าวว่า การแก้ไขดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือผู้หญิงที่มีรายได้น้อย โดยกลุ่มสิทธิสตรี รู้สึกชื่นชมนโยบาย การละเว้นการจำกัดงบประมาณ ที่นาย ไบเดน เสนอ เนื่องจาก นาย ไบเดน เป็นชาวคริสต์นิกายคาทอลิกมาตลอดชีวิต แต่เขาสนับสนุนการแก้ไข 'ไฮด์ อเมนด์เมนต์' ตลอดบทบาททางการเมืองส่วนใหญ่ของเขา แม้ว่าในช่วงการลงรับสมัครเลือกตั้งในปีพ.ศ. 2562 เขาเคยระบุว่า สิทธิในการทำแท้ง ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหลายรัฐและเข้าไม่ถึงผู้หญิงที่มีฐานะยากจนได้
โดยในช่วงหาเสียง นาย ไบเดน ได้ระบุถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องไว้ว่า เขาจะผลักดันให้มีการยกเลิกบทบัญญัติ 'ไฮด์ อเมนด์เมนต์' (Hyde Amendment) ซึ่งเป็นบทบัญญัติทางกฎหมายที่ 'จำกัดการใช้เงิน' ของรัฐบาลกลางเพื่อจ่ายค่าทำแท้งอย่างปลอดภัยให้แก่พลเมือง (ซึ่งจะยกเว้นให้เฉพาะกรณี เช่น การทำแท้งเพื่อช่วยชีวิตมารดา ต่อมาขยายเป็นการตั้งครรภ์จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และการร่วมประเวณีระหว่างสายเลือด) เพื่อปกป้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการทำแท้งและการคุมกำเนิด
นโยบายอนุรักษนิยม ที่ถูกนำกลับมาใช้ในยุคของ นาย โดนัลด์ ทรัมป์
นโยบายนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในรัฐบาลของ นาย โรนัลด์ เรแกน และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จนในยุคสมัยของ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำนโยบายนี้กลับมาใช้อีกครั้ง รวมถึงยกเลิกเงินสนับสนุนโครงการวางแผนครอบครัว ในส่วนที่เข้าช่วยเหลือและให้คำแนะนำในการทำแท้ง โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มขวาที่ต่อต้านการทำแท้งในสหรัฐฯ
นาย ทรัมป์ สนับสนุน การต่อต้านการทำแท้งเกือบทุกกรณี และ พยายามผลักดันให้การทำแท้งในกรณีต่าง ๆ ยากขึ้น โดยการยกเลิกการคุ้มครองการทำแท้งของรัฐบาลกลาง สำหรับ ผู้สูงอายุ (Medicare) ผู้มีรายได้น้อยและผู้พิการ (Medicaid) พนักงานของรัฐบาลกลาง ทหารหญิง และพลเมืองรัฐวอชิงตันดีซี
องค์กรเพื่อสิทธิในการทำแท้งในสหรัฐฯ พยายามเรียกร้องให้ นาย ไบเดน ยกเลิกหลายนโยบายของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง การคุมกำเนิด และสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะการยกเลิก ไฮด์ อเมนด์เมนต์ ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ให้พลเมืองสามารถใช้เงินทุนของรัฐบาลกลางในการทำแท้ง จากการเสนอของนาย ไบเดน ในครั้งนี้ ทำให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นฝ่ายขวา วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของ นาย ไบเดน อย่างหนัก
การตัดสินครั้งประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์
คำตัดสิน 'โรด์ เวด' ถือเป็นคำตัดสินครั้งสำคัญของศาลสูงสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งศาลตัดสินว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ นั้นคุ้มครองเสรีภาพของหญิงตั้งครรภ์ในการเลือกยุติการตั้งครรภ์ โดยไม่ละเมิดข้อห้ามทางกฎหมาย และให้สิทธิในการตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ได้ จนกว่าทารกในครรภ์จะสามารถมีชีวิตนอกมดลูก หรือประมาณระยะเวลาตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ โดย นาย ทรัมป์ พยายามหาแนวทางในล้มเลิกคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์นี้ ขณะที่ นาย ไบเดน สนับสนุน คำตัดสิน 'โรด์ เวด' เนื่องจากต้องการยืนยันว่าสิทธิของผู้หญิงในการเลือกทำแท้งนั้นจะยังคงอยู่ต่อไป