รีเซต

ผอ.โรงเรียน แจงเพจดังแฉ นำรถตู้ร.ร.ไปรับส่งเพื่อน ตีกอล์ฟ เผยครูมาแข่งกีฬาอาวุโส

ผอ.โรงเรียน แจงเพจดังแฉ นำรถตู้ร.ร.ไปรับส่งเพื่อน ตีกอล์ฟ เผยครูมาแข่งกีฬาอาวุโส
มติชน
30 สิงหาคม 2565 ( 16:51 )
87

จากกรณี เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โพสต์ภาพและข้อความระบุว่าใช้รถตู้หลวง ไปรับเพื่อนตีกอล์ฟ เรื่องรถหลวงไปใช้ส่วนตัว ทั้งเตือนทั้งติดคุกกันมาเท่าไหร่แล้ว ก็ไม่หลาบจำกันสักที !! อย่างเมื่ออังคารที่ 23 สิงหาคม 2565 พบรถตู้หลวง ด้านข้างมีโลโก้และเขียนชัดเจนตัวโต ๆ ว่าเป็นรถของโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ทะเบียน ขข 665 สงขลา มีคนขับพร้อม คอยไปรับส่งเพื่อน ผอ. ที่สนามกอล์ฟหาดใหญ่ ว่าด้วยเรื่อง “รถตู้หลวง” จัดเป็นรถยนต์ส่วนกลาง จะมีคนขับ และคนดูแลประจำรถ สามารถนำรถไปใช้เพื่อประโยชน์และงานของทางราชการเท่านั้น

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย(ญ.ว.) โดยดร.อุดม ชูลีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (ญ.ว.)ได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พร้อมกับเล่าที่มาที่ไปของการใช้รถตู้ไปที่รับส่งที่สนามกอล์ฟว่า ผอ.โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง ได้ทำหนังสือขอใช้รถอย่างเป็นทางการ ตามระเบียบราชการ มาขอความอนุเคราะห์ ในการใช้รถรับส่งครูของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยซึ่งเป็นตัวแทนนักกีฬากอล์ฟของ จ.ลำปางมาแข่งกีฬาอาวุโสที่ จ.สงขลา ซึ่งตนตอบตกลงไป

 

 

ดร.อุดม กล่าวต่อว่า ครูเดินทางมาถึงสนามบินหาดใหญ่เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 22 ส.ค. และในวันที่ 23 ส.ค.โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยมีหนังสือมาให้ช่วยกรุณาไปรับส่งครูนักกีฬา 1 วัน พร้อมกับส่งบัตรข้าราชการครูมาให้ดูด้วย

“ยืนยันว่าที่สื่อไปลงว่าเป็นเพื่อนของผมนั้นไม่เป็นความจริง ครูท่านนี้ไม่ได้เป็นเพื่อนกับผม เพียงแต่ผมรู้จักกับ ผอ.โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อีกที เรื่องนี้เริ่มต้นมาจาก ร.ร.บุญวาทย์วิทยาลัยขอความอนุเคราะห์ในการใช้รถเพื่อรับส่งนักกีฬาตัวแทน จ.ลำปาง และเป็นคุณครูของโรงเรียนบุญวาทวิทยาลัย และมีหนังสือที่เป็นไปตามระบบราชการถูกต้องทุกขั้นตอน”ดร.อุดม กล่าว

 

 

ดร.อุดม ยังกล่าวว่า โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยยังเป็นโรงเรียนเครือข่ายพัฒนาคุณภาพพิเศษร่วมกับโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยและโรงเรียน 12 แห่งทั่วประเทศ และวันนี้มาทำMOU ในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน ที่สื่อโซเชียลระบุว่ามีการนำรถตู้ของโรงเรียนไปรับส่งเพื่อน ผอ.นั้นไม่เป็นความจริง ตามที่ได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบ

“ผมฝากไปยังสื่อโซเชียลว่าการที่จะนำเรื่องใดไปลงนั้น ควรที่จะมีการตรวจสอบข้อมูลจากอีกฝ่ายก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะหากนำไปข้อมูลไปลงข้างเดียวจะกระทบกับองค์กรหรือตัวบุคคล”ดร.อุดมกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง