รีเซต

เจาะหุ้น "CPAXT-CPALL-BJC" Q4/66 ฟื้นหรือฟุบ?

เจาะหุ้น "CPAXT-CPALL-BJC" Q4/66 ฟื้นหรือฟุบ?
ทันหุ้น
13 กุมภาพันธ์ 2567 ( 12:31 )
10

#บล.ทิสโก้ ส่องหุ้น COMMERCE ผลประกอบการรายไตรมาสของ CPAXT, CPALL และ BJC น่าจะสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซาใน Q4/66 ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Sssg) จะต่ำพร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ทรงตวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยต้นทุนควรอยู่ในการควบคุมเป็นหลัก แต่มีข้อยกเว้นบางประการสำหรับ CPAXT (การใช้จ่าย O2O สูงกว่า) และ BJC (YoY เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในฮ่องกง) อย่างไรก็ตาม คาดหวังให้ทุกคนแสดงการปรับปรุงประสิทธิภาพหลัก

 

CPAXT ค้าปลีกเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ที่น่าตื่นเต้น

 

ฝ่ายวิจัยคาดว่า CPAXT จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส Q4/66F ที่ 2.76 พันล้านบาท (12%YoY+65%QoQ โดยการเพิ่มขึ้น YoY สาเหตุหลักมาจากการลดลงของดอกเบี้ยจ่ายจากการปรับโครงสร้างหนี้ ในด้านการดำเนินงานฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากขายส่งไปยังกลุ่มค้าปลีก 

 

อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มค้าปลีกของ TH/MY จะสร้าง Sssg ที่ 5%/4% (จากฐานที่ต่ำ) ตามลำดับ ซึ่งดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Sssg ของขายส่งที่ 3% (ราคาตกต่ำ และฐานสูง) โดยรวมแล้ว คาดว่า GPM และ SGA คงที่ต่อยอดขายเพื่อรองรับธุรกิจ O2O ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPAXT โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 43.00 บาท

 

 

CPALL-CVS เติบโตแข็งแกร่งพร้อมผลกำไรต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิ Q4/66F ที่ 4.84 พันล้านบาท (+7%YoY/6%QoQ โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งในสายหลักและค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้มากขึ้น สำหรับธุรกิจ CVS ฝ่ายวิจัยคาดว่า SSSg Q4/66F จะอยู่ที่ 3% เทียบกับ 15% ใน Q4/65 และ 3.5% ใน Q3/66) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยว แต่ต้องเผชิญกับฐานที่สูงใน Q4/65 ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว 

 

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า CPALL จะเพิ่มสาขามากกว่า 150 แห่ง ซึ่งเกินเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ประจำปีที่ 700 แห่ง ทั้งนี้ คาดว่า SG&A ต่อยอดขายจะทรงตัว คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPALL โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 76.00 บาท

 

 

BJC-MSC และการใช้จ่ายภาครัฐช่วยขับเคลื่อน คาด GPM โดยรวมดีขึ้น

 

BJC คาดจะรายงานกำไร Q4/66F ที่ 1.60 พันล้านบาท (-1% YoY, +131%QoQ) การขยายธุรกิจหลักน่าจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของยอดขายจาก MSC และ H&TSC ในขณะที่ CSC ควรทรงตัว YoY และ PSC ควรลดลง YoY GPM น่าจะดีขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ สำหรับ BigC ฝ่ายวิจัยคาดว่า Sssg Q4/66F จะอยู่ที่ 2.5% YoY โดยได้แรงหนุนจากร้านค้านักท่องเที่ยว ในขณะที่ร้านค้าทั้งหมดเผชิญกับแรงกดดันเงินเฟ้อ 

 

อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าเช่าก็น่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน ในด้านต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ (SG&A) ต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการซื้อธุรกิจในฮ่องกงเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับธุรกิจอื่นๆ การขยายธุรกิจระดับสูงของ H&TSC ควรได้รับการสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ 

 

สำหรับ PSC ยอดขายกระจกที่เพิ่มขึ้นน่าจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้ แม้ว่ายอดขายกระป๋องอะลูมิเนียมจะมีจุดอ่อนบ้างเนื่องจากราคาอะลูมิเนียมที่ลดลงก็ตาม สำหรับธุรกิจ CSC ผลประกอบการน่าจะทรงตัว YoY จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มที่ดีขึ้นจะช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้น  ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BJC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 45.00 บาท 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง