หญิงเมียนมาถูกยิงสาหัส ยูเอ็นชี้กองทัพต้องเคารพสิทธิประชาชน
เหตุประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ โดยมีรายงานว่ามีหญิงคนหนึ่งถูกยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่ศีรษะ และอาการสาหัสจนไม่แน่ใจว่าจะรอดชีวิตหรือไม่
แพทย์ที่โรงพยาบาลในกรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมาเผยว่า ขณะนี้หญิงรายนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน และอาการสาหัสมากจนไม่แน่ใจว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ โดยจากผลการเอ็กซเรย์ยืนยันว่าเธอถูกยิงด้วยกระสุนจริง
ทั้งนี้ มีภาพที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียซึ่งรอยเตอร์นำมาตรวจสอบว่าเป็นภาพของหญิงที่ถูกยิง โดยเหตุเกิดขึ้นขณะที่เธออยู่กับผู้ประท้วงหลายอื่นๆ ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งห่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลไม่มากนัก ขณะที่กำลังมีการยิงปืนฉีดน้ำและได้ยินเสียงปืนขึ้นหลายนัด จากนั้นหญิงคนดังกล่าวซึ่งสวมหมวกกันน็อกสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์ได้ล้มลงอย่างกระทันหัน ก่อนจะมีภาพที่แสดงให้เห็นหมวกกันน็อกของเธอที่มีรูกระสุนปืนปรากฏขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์บอกว่า ยังมีชายอีกรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกแต่อาการไม่สาหัส และยังไม่ชัดเจนว่าเขาถูกยิงด้วยกระสุนจริงหรือกระสุนยาง มีการรายงานข่าวโดยอ้างแพทย์ที่แสดงความเชื่อว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงน่าจะใช้กระสุนจริง เมื่อดูจากบาดแผลของผู้รับบาดเจ็บ
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของทางการเมียนมา ได้รายงานถึงเหตุการณ์ประท้วงเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับบาดเจ็บขณะที่พยายามจะสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถูกทำลายที่เมืองมัณฑะเลย์
ด้านเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมาของสหประชาชาติ ออกมาแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุว่า การใช้กำลังทหารในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมกับกลุ่มประท้วงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงของเมียนมาเคารพสิทธิในการประท้วงโดยสันติของประชาชน
ขณะที่สมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางอองซานซูจีระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกค้นที่ทำการใหญ่ของพรรคเอ็นแอลดีในนครย่างกุ้ง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีการพังประตูเข้าไปด้านในอาคารอีกด้วย