โควิด: อิสราเอลผ่านกฎหมาย เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ติดตามคนไม่ยอมรับวัคซีน
โควิด: อิสราเอลผ่านกฎหมาย - วันที่ 25 ก.พ. เมโทร รายงานว่า อิสราเอล ผ่านกฎหมายอนุญาตในการส่งต่อข้อมูลประชาชนผู้ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แก่หน่วยงานรัฐอื่นๆ ได้ ด้วยมติของรัฐสภา 30 ต่อ 13 เสียง สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวต่อประชาชนที่อาจเลือกไม่รับวัคซีน
AFP
กฎหมายดังกล่าวให้อำนาจรัฐบาลท้องถิ่น รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษา และเจ้าหน้าที่บางส่วนในกระทรวงสวัสดิการ ขอชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ ของทุกคนที่ไม่รับวัคซีน
รัฐสภาอิสราเอลแถลงว่า วัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้คือเพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวกระตุ้นให้ประชาชนออกมารับวัคซีน ผ่านช่องทางการติดต่อส่วนตัว และการบังคับใช้มีผล 3 เดือน หรือจนกว่าจะสิ้นสุดการระบาดใหญ่ของโควิด-19
รัฐสภาอิสราเอลระบุว่า ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ได้ นอกจากเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมารับวัคซีนเท่านั้น ตามกฎหมายแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกลบออกหลังใช้งานภายใน 60 วัน ส่วนผู้ได้รับการติดต่อสามารถแจ้งขอลบข้อมูลส่วนบุคคลได้และจะไม่ได้รับการติดต่ออีก
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมต่อผู้ใช้สิทธิไม่รับวัคซีน
น.ส.มารัฟ มิชาเอลี ผู้นำพรรคแรงงาน พรรคการเมืองฝ่ายค้าน กล่าวหา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำฝ่ายขวา ที่ไม่ยอมให้พลเมืองมีสิทธิความเป็นส่วนตัวในข้อมูลทางการแพทย์ของตัวเอง
ส่วน นายฮาอิม คัตซ์ ส.ส.พรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ออกโรงปกป้องกฎหมายส่งเสริมการฉีดวัคซีน และตั้งคำถามว่า “ผมถูกถามเรื่องความเป็นตัวของประชาชน แล้วความเป็นส่วนตัวสำคัญกว่าชีวิตประชาชนหรือไม่” และยืนกรานข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่นำใช้อย่างอื่นนอกจากถามแต่ละคนว่ารับวัคซีนหรือแล้วยัง
REUTERS
ต่อมา ในการแถลงข่าว นายเนทันยาฮูเรียกร้องให้พลเมืองอิสราเอลรับวัคซีนเพื่อกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และว่าอิสราเอลมีเป้าหมายฉีดวัคซีน 2 โดส ให้ประชากร 6.2 ล้านคน ก่อนต้นเดือนเมษายน
"ผู้ใหญ่หลายล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีน หลายคนทั่วโลกกำลังรอวัคซีน แต่ที่อิสราเอล วัคซีนกำลังรอคนมาฉีด" นายเนทันยาฮูกล่าว
ทั้งนี้ อิสราเอลฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของ ไฟเซอร์-บิออนเทค ทั้ง 2 โดส ให้พลเมืองไปแล้วราว 3 ล้านคน ของประชากรทั้งหมด 9 ล้านคนส่วนผู้รับวัคซีนแล้ว 2 โดส จะได้รับบัตรสีเขียวเพื่อสามารถเข้าถึงสถานที่บางแห่งได้ เช่น โรงออกกำลังกาย และรับประทานอาหารในร้าน ซึ่งปกติยังถูกกำจัดท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อมีมากกว่า 760,000 คน เสียชีวิตเกิน 5,600 ราย