รีเซต

ศบค.ทบ. ตอบปม แรงงานหนีเข้าไทย โอดชายแดนยาว 5 พันกิโล ต้องมีหลุดบ้าง ลั่นไม่มีทุจริต

ศบค.ทบ. ตอบปม แรงงานหนีเข้าไทย โอดชายแดนยาว 5 พันกิโล ต้องมีหลุดบ้าง ลั่นไม่มีทุจริต
ข่าวสด
21 ธันวาคม 2563 ( 16:46 )
167

ศบค.ทบ. ตอบปม แรงงานหนีเข้าไทย โอดชายแดนยาว 5 พันกิโล ต้องมีหลุดบ้าง ยันไม่มีทุจริต ลั่น 7 กกล.ทำเต็มที่แล้ว เผย 3 จังหวัด ลอบเข้าเยอะสุด ส่ง 2 กองร้อยพิทักษ์สมุทรสาคร

 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ของกองทัพบก (ศบค.ทบ.)กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่จ.สมุทรสาคร พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีข้อสั่งการไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการเพิ่มมาตรการป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่

 

 

ทั้งทหารหลัก ทหารพราน และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่ชายแดนมีความยาวถึง 5,526 กม. ในขณะที่กองทัพบกมี 7 กองกำลังป้องกันชายแดน ประกอบด้วย กองทัพภาคที่ 1 มีกกล.บูรพา และกกล.สุรสีห์ กองทัพภาคที่ 2 มีกกล.สุรนารี และกกล.สุรศักดิ์มนตรี กองทัพภาคที่ 3 มีกกล.นเรศวร และกกล.ผาเมือง กองทัพภาคที่ 4 มีกกล.เทพสตรี นอกจากนี้ยังมีกำลังกองทัพเรือคือศร.ชล.

 

 

ที่ผ่าน มาผบ.ทบ. ได้สั่งเพิ่มเติมกำลังไปแล้ว 5 กองร้อย รวมถึงเพิ่มมาตรการในการปฏิบัติ เช่น เพิ่มจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เป็นช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามได้สะดวกด้วยการวางเครื่องกีดขวาง อาทิ ลวดหนามหีบเพลง ไม้กั้น รวมถึงเพิ่มกำลังลาดตระเวน ทั้งเดินเท้า ใช้รถจักรยานยนต์ ใช้รถยนต์ และเรือ การใช้โดรนบินลาดตระเวน พร้อมตรวจจุดพักพิงตามแนวชายแดนให้มากขึ้น ขณะเดียวกันผบ.ทบ.ได้กำชับกำลังพลทั้ง 7 กองกำลังให้ปฏิบัติงานโดยมีมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด

 

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังใช้กลไกประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น โดยได้ประสานกับประเทศเมียนมา เพื่อรับคนไทยที่เดินทางไปทำงานกลับเข้ามา เบื้องต้นมีคนไทยประสานมา 278 คน เดินทางกลับมาแล้ว 201 คน และอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน มีผู้ตกค้าง 77 คน

 

 

ส่วนผลการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศมี 138 ครั้ง จำนวน 279 คน พบมากสุดที่จ.ตาก เชียงราย และกาญจนบุรี โดยผู้ที่เป็นแรงงานต่างด้าวได้มีการผลักดันออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว รวมถึงยังมีชุดกิจการพลเรือนกองทัพบก374 ชุด ลงพื้นที่ประสานงานกับอาสาสมัครกรมกิจการพลเรือนกองทัพบกที่มีเครือข่ายภาคประชาชน 11,730 คน เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศในการสร้างความรู้ป้องกันโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามสำหรับการดูแลพื้นที่จ.สมุทรสาครนั้น กองทัพบกได้จัดกำลังพล 2 กองร้อยจากกรมทหารสื่อสารที่ 1 จ.สมุทรสาคร ร่วมตั้งจุดตรวจและจุดสกัดกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลพื้นที่จ.สมุทรสาคร

 

 

เมื่อถามว่า แรงงานข้ามชาติที่ตลาดกุ้ง ในจ.สมุทรสาคร ลักลอบเข้าประเทศไทยมาจากพื้นที่ใด พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ทหารปฏิบัติงานร่วมกับหลายฝ่าย หน้าที่โดยตรงคือการป้องกันชายแดน รวมทั้งดูแลงานด้านการข่าว ยืนยันว่ากองทัพบกทำงานเต็มที่ ทั้งนี้การนำเชื้อเข้ามาได้ 3 ทางคือทางอากาศ พื้นดินและทางน้ำ ซึ่งทั้ง 7 กองกำลังได้ทำงานเต็มที่แล้ว แต่ต้องเข้าใจว่าพื้นที่ชายแดน 5,526 กม.ยาวและไกลมาก เชื่อว่ามีหลุดรอดได้ เพราะชายแดนบางพื้นที่สามารถเดินผ่านเข้าออกได้ตลอด ในส่วนของลำน้ำก็โดยสารทางเรือหรือสามารถลอยคอเข้ามาได้ ถือเป็นเรื่องที่หนักใจของกองกำลังป้องกันชายแดนว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเดินตรวจตราได้ตลอดเวลา

 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นเพราะมีเจ้าหน้าที่รับสินบนนำเข้าแรงงานต่างด้าว พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ผบ.ทบ.ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มี

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้แรงงานข้ามชาติทะลุแผนกำแพง 3 ชั้นในการสกัดโควิด-19 กองทัพบกแล้ว จะมีการปรับแผนงานอย่างไร พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า ทุกส่วนปฏิบัติงานเต็มที่ ส่วนผู้ที่มีหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์คือผู้ว่าฯที่ต้องประสานทหาร ตำรวจ และกองกำลังในพื้นที่เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมกัน เมื่อถามอีกว่า กองทัพบกได้ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ เพื่อป้องกันแนวชายแดนแต่เอาไม่อยู่ใช่หรือไม่ ยืนยันว่ากองทัพบกใช้กำลังเต็มที่

 

 

เมื่อถามว่า แรงงานข้ามชาติ ที่จ.สมุทรสาคร เป็นการทยอยลักลอบเดินทางเข้ามาหรือไม่ พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า จากสถิติไทยมีแรงงานข้ามชาติ 2.4 ล้านคน ซึ่งเข้ามาแบบถูกต้องโดยจ.สมุทรสาคร ถือเป็นแหล่งที่มีชาวเมียนมาเข้ามาประกอบอาชีพเป็นจำนวนมากเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย

 

 

เมื่อถามว่า หากเป็นแรงงานถูกกฎหมายแล้วเชื้อเข้ามาได้อย่างไร พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของศบค.และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวน ส่วนจะมีผู้ลักลอบแฝงเข้ามาด้วยหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นในการตรวจสอบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง