วิโรจน์ แพลม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.จากก้าวไกล เป็นลูกแม่ค้า ชีวิตวัยเด็กต้องดิ้นรน พร้อมชนทุกปัญหา

ข่าววันนี้ 17 มกราคม  นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ ถึงแคนดิเดตว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ของพรรคก้าวไกล  โดย ระบุว่า การเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกล ต้องขอบคุณไอเดียจากด้อมต่างๆ  การติดป้ายตามร้านรถเข็น นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้ให้กับคนตัวเล็กตัวน้อยอีกด้วย

ซึ่งสะท้อนว่าผู้สมัครของเรา เป็นคนธรรมดา ที่พร้อมชนกับทุกปัญหา เพื่อคนกรุงเทพฯ ทุกคนจริงๆ

ผู้สมัครผู้ว่าฯ จากพรรคก้าวไกล เป็นคน กทม. ธรรมดาๆ เป็นลูกแม่ค้า ที่ในวัยเด็กก็ต้องดิ้นรนเรียน โตขึ้นมาก็ต้องดิ้นรนทำงาน ทุกสิ่งที่ได้มาล้วนมาจากพลังความคิด ความตั้งใจ และน้ำพักน้ำแรง

เป็นคนที่พร้อมชนกับทุกปัญหา เป็นคนตรงไปตรงมา งานอะไรที่รับอาสา ก็พร้อมทุ่มเททำอย่างสุดตัว

ทั้งนี้หลังนายวิโรจน์ ทวิตข้อความ ผู้ติดตามรายหนึ่งได้มาแสดงความเห็น ว่า “คิดยังไง​ถึงส่งค่ะ​ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีโอกาสชนะ”

ทำให้นายวิโรจน์เข้ามาตอบคำถามดังกล่าว ระบุว่า  เรียนตรงๆ นะครับ เราคิดว่าเรามีโอกาสชนะครับ

และเราคิดว่าเรามีแนวคิดในการดูแล จัดการกรุงเทพฯ ที่มั่นใจว่า จะตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ ที่ไม่หลงลืมใครครับ  (^____^)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในวันนี้ พรรคก้าวไกลเปิดตัวแคมเปญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ภายใต้สโลแกน ‘พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ’ โดยในช่วงเช้ามีการติดป้ายข้อความ ‘หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม’ พร้อมโลโก้พรรคก้าวไกล หลายพื้นที่ใน กทม. โดยเป็นป้ายข้อความติดบนรถตุ๊กตุ๊ก  รถสองแถว  รถเข็นขายอาหาร  เป็นต้น

ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกลได้ขึ้นข้อความ ‘หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาเลือกผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ’ โดยระบุว่าจะมีการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกล ในวันที่ 23 มกราคม 2565

ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังไม่เปิดเผยชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรค แม้จะมีกระแสคาดเดาจากหลายฝ่ายตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่าเหตุที่พรรคไม่ได้เปิดชื่อผู้สมัครแต่เลือกเปิดสโลแกนก่อน คือการเป็นผู้ว่าที่ ‘พร้อมชน’ เพื่อคนกรุงเทพฯ เป็นเพราะพรรคเชื่อว่าบุคคลที่จะมาเป็นผู้สมัครจะเป็นใครไม่สำคัญเท่ากับว่าเขาหรือเธอจะเป็นผู้ว่าแบบไหน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ผู้ว่าฯ คนนั้นจะต้องพร้อมชนทุกปัญหา พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เกรงใจทุนใหญ่ ผู้มีอิทธิพล และไม่มีวันทอดทิ้งประชาชนเมื่อถึงยามคับขัน