ฌอน ไม่โผล่! ส่งตัวแทนแจง ปลัดแม่ริม เผยหญิงลึกลับโทรแฉเพิ่ม
ฌอน ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึง ปลัดแม่ริม ขอให้ถ้อยคำที่สภ.ปากเกร็ดที่เดียว ด้าน หญิงลึกลับโทรหาปลัด แฉเพิ่ม มีหลายบัญชี-ตัวเลขนับล้าน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ที่สำนักงานว่าการอำเภอแม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตัวแทนของนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม ซึ่งเป็นหนังสือชี้แจงของนายฌอน ว่า ไม่ขอมาให้ปากคำที่เชียงใหม่ จะขอไปให้ปากคำที่ สภ.ปากเกร็ด ที่เดียว ซึ่งทางปลัดได้ทำการรับหนังสือไว้
ทั้งนี้ ระหว่างที่ นายบุญญฤทธิ์ แถลงข่าวกับสื่อมวลชนนั้น ได้มีโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) อ้างว่าโทรมาจากจ.อุบลราชธานีถึงนายบุญญฤทธิ์ เพื่อให้ข้อมูลการรับบริจาคนายฌอนว่ามีถึง 3 บัญชีไม่ใช่บัญชีเดียวตามที่นายฌอนกล่าวอ้าง เนื่องจากพบพิรุธการเปิดรับบริจาคดังกล่าว หลังจากนายฌอนได้ชี้แจง มีผู้บริจาคเพียง 1.3 ล้านบาท
แต่ยอดบริจาค 3 วันแรก มีเงินเข้ากว่า 1 ล้านบาทแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ว่ามียอดบริจาคเพียงเท่านี้ เชื่อว่าเป็นการตกแต่งบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงตรวจสอบ เพราะนายฌอนได้ชี้แจงหลังมีข่าวมากว่า 10 วันแล้ว โดยทางปลัดก็ได้รับเรื่องไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า นายฌอนได้ทำหนังสือถึงอ.แม่ริมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยแจ้งและส่งตัวแทนมายื่นหนังสือกับตนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สรุปใจความง่าย ๆ ก็คือนายฌอนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานเอกสารต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ปากคำที่ สภ.ปากเกร็ด
"แต่ผมก็ยังยืนยันอยากจะให้เขามาชี้แจงที่นี่ ซึ่งก็ได้ชี้แจงกับทางทีมงานของฌอนไปแล้วว่าทางอำเภอมีภาระกิจคือ ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อยากให้มาคุยกับเราทางนี้มากกว่า เพราะว่า 1.ฌอนเปิดเรี่ยไร เปิดรับบริจาคที่เชียงใหม่ ธนาคารสาขารวมโชค 2.ผู้เสียหายที่ฌอนจะให้ความช่วยเหลือก็อยู่ที่เชียงใหม่ หลายอำเภอ และ 3.การซื้อขายต่าง ๆ หลักฐานต่าง ๆ ของฌอนก็อยู่ที่เชียงใหม่เป็นหลัก" นายบุญฤทธิ์ กล่าว
นายบุญฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่านายฌอนกำลังหาทางออกมากกว่า เชื่อว่าเขากำลังดูทางออกที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งทางอำเภอเราก็มี พ.ร.บ.เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ย ทั้งของอ.แม่ริม อ.เมือง อ.หางดง ในพื้นที่เกิดเหตุ ก็สามารถที่จะดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ โดยตอนนี้ถือว่านายฌอนได้ทำการชี้แจงแล้ว ทางเราก็จะรอสำนวนการสอบของสภ.ปากเกร็ด ซึ่งเราจะทำหนังสือประสานไปขอสำนวนด้วย
นายบุญฤทธิ์ กล่าวอีกว่า โดยตนในฐานะคณะทำงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ก็จะยังดำเนินการ 2 ข้อ คือ 1.พ.ร.บ.เรี่ยไร และ 2.กรณีที่นำเงินมาแล้วตอนนี้ทางส่วนราชการต่าง ๆ ได้แจ้งมาแล้วว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือ เราก็จะตรววจสอบดูว่า เงินที่นายฌอนเอาไป เอาไปใช้อะไร ฉะนั้นก็จะมีความคิดเข้าข่ายฐานฉ้อโกง หรือไม่ก็ยักยอก ก็ต้องดูฐานความผิดอีกที
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า หากนายฌอนไปให้ปากคำที่ สภ.ปากเกร็ด แล้ว ก็ถือว่านายฌอนไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ทางเราก็อาจจะพิจารณาเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามลำดับไป ดูความเห็นอีกที เพราะสภ.ปากเกร็ดก็ส่งหนังสือมาถึงเรา แต่คดีนี้ถ้าสามารถรวบรวมผู้ที่บริจาคเงิน ถ้าได้ก็อาจจะมีการกล่าวโทษร้องทุกข์ที่เชียงใหม่ เพราะเหตุเกิดที่เชียงใหม่ หากมีการดำเนินคดีก็ขอให้มีการดำเนินคดีที่เชียงใหม่ โดยจะมีการขอร้องทุกข์ที่เชียงใหม่ ขอนำสำนวนทั้งหมดมาที่เชียงใหม่
นายบุญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนทาง โตโน่ และอีกหลายคน และที่เคยนำเสนอไปแล้ว เราก็จะขอความร่วมมือมาให้ถ้อยคำกับเราอีกครั้ง หากได้บุคคลเหล่านี้มาเพิ่มอีก เราก็พร้อมจะสรุปความเห็นได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับติดต่อจากโตโน่
_____________________________________________________________
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง