คุม 2 คนร้าย ทำแผนปล้นร้านทองหนัก 86 บาท กลางห้างดังอยุธยา
จากคดี 2 คนร้าย ก่อใช้อาวุธปืนข่มขู่ จี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชเอเชีย ตั้งอยู่ภายในห้างโลตัส สาขาโรจนะ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยชิงทองไปได้ทั้งหมด 86 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ภาค 1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน ได้เร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้ายตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆใช้เวลา 3 วัน สืบสวนจนทราบตัวคนร้าย พร้อมกับ ขอศาลจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับติดตามจับกุมตัวนั้น
โดยตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน คือนายคมสันต์ ขาวสุวรรณ อายุ 38 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ชายชุดดำที่ใช้อาวุธปืนเข้าไปก่อเหตุ นายนพมาศ แหยมชอบใจ อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ชายที่สวมใส่เสื้อไรเดอร์
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ร้านทองเยาวราชเอเชีย ตั้งอยู่ภายในห้างโลตัส สาขาโรจนะ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน นำของกลาง ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ร่วมกันก่อเหตุ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ รถจักรายนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รถยนต์กระบะ ที่ใช้ในการขนรถจักยานยนต์และพาผู้ต้องหาหลบหนี รถยนต์เก๋งที่ใช้ในการรับตัวผู้ต้องหาหลบหนี รถยนต์กระบะ รถยนต์เอนกประสงค์ ของคนร้ายที่ขายทอง ได้นำเงินไปไถมาจากการจำนำ กับนำตัวผู้ต้องหา นำชี้ที่เกิดเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เริ่มตั้งตั้งแต่นายนพมาศ สวมใส่ชุดไรเดอร์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ มีนายคมสันต์ ซ้อนท้าย เข้ามาจอดที่ลานจอดรถจากนั้นขึ้นไปก่อเหตุปล้นทอง โดยนายคมสันต์ ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมา เข้าไปบังคับให้พนักงานส่งทองเลือกเอาเส้นใหญ่ส่งมาให้ใส่กระเป๋าแล้วหลบหนีไป
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.ภ.1 กล่าวว่า คนร้ายแก๊งนี้ร่วมกันวางแผนการปล้นทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทรัพย์โดยมีการอำพราง รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ มีการมาดูสถานที่เกิดเหตุ เลือกช่วงเวลา ไม่อยากเปิดเผยถึงรายละเอียดหรือพฤติกรรมมาก ขอประชาชนอย่าได้คิดที่จะเอาพฤติกรรมวิธีการของคนร้าย ไปเลียนแบบเพราะจะเลียนแบบหรือทำอย่างไรก็ไม่สามารถรอดพ้นหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กลุ่มคนร้ายก็เป็นนายจ้าง เป็นลูกน้องกัน ติดหนี้สินกัน
นายพงษ์ชัยวัฒน์ เป็นหัวหน้าของผู้ต้องหาอีก 2 คน ติดหนี้สินไม่มีเงินชำระหนี้ จึงวางแผน ให้ลูกน้อง ก่อเหตุปล้นทอง แล้วเองเงินมาใช้หนี้ แล้วไปชักชวน ผู้ต้องหาซึ่งเป็น ภรรยา และญาติ นำทองไปขาย ส่วนทองรูปพรรณของกลาง บางส่วนผู้ต้องหามีการนำไปขาย นำไปจำนำ แล้วนำเงินสดที่ได้ไปไถ่ถอนรถยนต์ จำนวน 2 คัน ที่จำนำเอาไว้ เหลือเป็นเงินสดประมาณ 382,800 บาท นำฝากธนาคาร จำนวน 193,000 บาท ทองรูปพรรณที่ตรวจยึดมาได้ น้ำหนักประมาณ 24บาท เหลือทองรูปพรรณที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวน ตรวจยึดประมาณ62 บาท
กลุ่มไรเดอร์ ที่มาดูการทำแผนประกอบคำรบสารภาพว่า กล่าวว่า การที่คนร้ายมาใช้เสื้อไรเดอร์มาอำพรางในการก่อเหตุ ทำให้กระทบต้อการส่งซื้ออาหารของลูกค้า บางรายก็กลัว ยังเชื้อว่าลูกค้าเข้าใจแยกยะออกได้ว่า คนไหนคนดีคนไหนคนเลว