"หยวนต้า" มองชุมนุมไม่กระทบ "หุ้นไทย" ลุ้นศาลฯชี้ชะตา "นายกฯ" แนะจับตาเจรจา "ภาษีสหรัฐฯ"

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาด SET Index แกว่งตัวออกข้างรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ แม้บรรยากาศการลงทุนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะออกไปในทิศทางที่ผ่อนคลาย แต่คาด SET Index จะถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเฉพาะตัวคือการรอติดตาม การนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปรึกษาคดีสาคัญในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจมีการพิจารณาคำร้องให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เชิงกลยุทธ์แนะนำสลับไปเก็งกำไร DR ที่เชื่อมโยงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ล่าสุดทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เช่น QQQM19, JPMUS19, NVDA19 และ COSTCO19 เป็นต้น

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำสุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ แม้การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE สำหรับเดือนพ.ค. ที่ 2.7% YoY จะออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่นักลงทุนได้ให้น้าหนักกับการรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วง 12 เดือนข้างหน้า (Consumer Sentiment) ที่ฟื้นตัวขึ้นทาจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน และความคาดหวังการเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed เป็นผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นทาสุดสูงสุดใหม่ของตลาดหุ้น S&P500 ยังได้แรงหนุนจากพัฒนาการเจรจาสงครามการค้า คือการเซ็นสัญญากับจีน ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยต่อสื่อว่ามีความมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจากับสหรัฐฯ ก่อนครบกาหนดในวันที่ 9 ก.ค. แนะนำเก็งกาไร DR ที่เชื่อมโยงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช่น QQQM19, JPMUS19, NVDA19 และ COSTCO19

ปัจจัยการเมืองคือปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทย เราประเมินการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยสาคัญที่ตลาดจะรอติดตามคือการนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปรึกษาคดีสาคัญ ซึ่งอาจมีการพิจารณาคำร้องสมาชิกวุฒิสภา 36 คนให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากมีความชัดเจน และไม่ได้นาพาไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นคาดจะเห็นแรง ‘Buy on fact’ ในกลุ่มหุ้น Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ไฟแนนซ์, อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

สงครามการค้าใกล้ถึงวันครบกำหนด นอกเหนือจากปัจจัยทางด้านการเมืองของไทย เราประเมินอีกปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะรอติดตาม คือพัฒนาการของการเจรจาทางการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ล่าสุดรมว. คลังเปิดเผยว่ามีแผนจะเดินทางไปสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เชิงกลยุทธ์แนะนำติดตามความคืบหน้าหากมีพัฒนาการในเชิงบวกจะเปิดโอกาสเข้าเก็งกำไรหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อสงครามการค้า เช่น นิคมอุตสาหกรรม, ส่งออกอาหาร และอาหารสัตว์เลี้ยง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์