ผู้เชี่ยวชาญเด็ก แนะรัฐออกมาตรการให้ประชาชนเข้าถึง "คาร์ซีท" ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก
วันนี้ (10 พ.ค.65) เบาะที่นั่งนิรภัย สำหรับเด็ก หรือ คาร์ซีท (Car Seat) 2 ตัว แบ่งเป็นสำหรับเด็กแรกเกิด และ เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป คือ ตัวอย่างที่สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว นำมาจัดแสดงให้เห็นถึงลักษณะการใช้งาน และระบบนิรภัยของตัวคาร์ซีท ที่มีความจำเป็นต่อการเดินทางด้วยรถยนต์สำหรับเด็กเล็ก
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวฯ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี อธิบายว่าเบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก จะช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ เพราะสรีระร่างกายเด็กที่อายุน้อยกว่า 9 ปีหรือสูงน้อยกว่า 135 เซ็นติเมตร จะไม่สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้งมากับตัวรถยนต์ได้
พร้อมแนะวิธีการติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กให้ถูกต้อง โดยเลือกขนาดให้เหมาะสมกับช่วงวัย และไม่ควรติดตั้งที่ด้านหน้าของรถยนต์ เพราะอาจเกิดอันตรายจากถุงลมนิรภัยหากเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนประกาศราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้กฎหมายให้เด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่ง "คาร์ซีท" และมีโทษปรับถึง 2,000 บาท รศ.นพ.อดิศักดิ์ มองว่าเป็นกฎหมายความหวังดี และคำนึงถึงสวัสดิภาพความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก
ทั้งนี้ มองว่าไม่ใช่เพียงประชาชนที่ต้องเตรียมตัวในการจัดหาคาร์ซีทให้กับบุตรหลานของตนเองเท่านั้น แต่เป็นเวลาที่รัฐ บริษัท หน่วยงานต่างๆ ต้องมีมาตรการรองรับช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงที่นั่งนิรภัย เช่น สนับสนุนการซื้อ คนละครึ่ง ตั๋วคืนเงิน ลดต้นทุนผู้ขายด้วยการลดภาษีนำเข้า หรือมีจุดบริการยืมที่นั่งนิรภัยชั่วคราว
สิ่งหนึ่งที่อาจต้องไปหาแนวทางเพิ่มเติม คือ กรณีรถรับส่งนักเรียน ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือติดตั้งที่นั่งนิรภัยได้หรือไม่ เพราะหากให้ผู้ประกอบการติดตั้งเองทั้งหมด ย่อมมีปัญหาเรื่องภาระค่าใช้จ่ายที่มีต้นทุนสูงตามมา.
ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN ONLINE