กับดัก! คนอยากรวยหุ้นรายวัน!

​ช่วงนี้ทำอะไรดี? เป็นคำถามในยุคที่เงินทองหายาก พอสมควร ยิ่งในภาวะ ข้าว ยาก หมากแพง ทำมาหากินค้าขายไม่ได้ ยิ่งต้องหาเงินใช้รายวัน เอ้า เอาไงดี มีเงินอยู่ก้อนนึง หนึ่งแสนบาท เข้ามาหาเงินในตลาดทุนไทย ตลาดลักทรัพย์ เอ้ย หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือที่เรียกกันสั้นๆบ้านว่า “ตลาดหุ้น” กันดีกว่า



​ครั้นพอเข้ามา เปิดบัญชีซื้อขาย เสร็จเป็นอันเรียบร้อย ก็จะเริ่มต้นเข้าสู่หัวเรื่องที่ เม่าน้อยใหญ่ถวิลหา นั่นก็คือ “วันนี้จะซื้อหุ้นตัวไหนหรือเข้าหุ้นตัวไหนดี” ก็เปิดเข้ามา หาข้อมูล ใน เพจ TNN WEALTH ฟังสรุปประเด็นข่าวพอตลาดเปิดรอบเช้าก็ เข้าตะลุมบอนนน จนปิดตลาดเที่ยงครึ่ง พักกินข้าวเที่ยง


จนมาถึง ตลาดหุ้นจะเปิด รอบบ่ายสอง ก็อัพเดทตลาดอีกรอบ กับ คุณหมวย ธนวัน เสียงใสๆ ฉะฉาน สัมภาษณ์ โชะๆ เจาะหาหุ้นรอบบ่าย จนได้ตัวที่จะ เคาะขวา หาลำไย เป็น ค่ากับข้าว กับปลามื้อเย็น และแล้ว พอตลาดเปิดบ่ายก็ ลุยยยยยยย!!! กันอีกรอบ



ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มันช่างตรงกับชีวิตการลงทุนของเราเสียเหลือเกิน ที่หาหุ้นเล่นทุกวัน ซื้อขายวนเวียนไปมากำไรบ้างขาดทุนบ้างนั่นคือหัวเรื่องวันนี้ครับ คุณรู้มั้ยครับว่า กับดักที่คุณเจออยู่ คืออะไร?



หลายคนอาจจะบอกว่า มันกำไร ขาดทุนวนไปเวียนมา สุดท้ายแล้ว พอร์ตไม่โต จะว่าไปนั่นก็ส่วนหนึ่งครับ แต่มีอีกมิติ หนึ่งที่ผมจะกล่าวถึงก็คือ “ค่าธรรมเนียมซื้อขาย” หรือ “ค่าคอมฯ” ลองนึกภาพ ตามดูน้ะครับ



ตัวอย่าง : พอร์ตการ ลงทุน 100,000 บาท ถ้วน ค่าธรรมเนียม+ภาษีมูลค่าเพิ่ม 0.157%



CASE A : ซื้อขายต่อวันไม่เกินมูลค่าพอร์ต ต่อวัน 100,000 บาท ค่าธรรมเนียมรวม 157 บาท ดังนั้น 1 เดือน 20 วัน ค่าคอมฯ 3,140 บาท (3.14%) 12 เดือน ค่าคอมฯ 37,680 บาท (37.68%)



CASE B : ซื้อขายต่อวันเกินมูลค่าพอร์ต ต่อวัน 200,000 บาท ค่าธรรมเนียมรวม 314 บาท ดังนั้นเดือน 20 วัน ค่าคอมฯ 6,280 บาท (6.28%) 12 เดือน ค่าคอมฯ 75,360 บาท (75.36%)



​จากตัวอย่างทั้งสองแบบจะเห็นว่าซื้อขาย ค่าคอมฯต่อปีที่ต้องจ่าย 37.68% และ 75.36% ตามลำดับ ในที่นี้คือถ้าเราเล่นแล้วเจ๊าไม่กำไรน้ะ นอกจากพอร์ตการลงทุนไม่โตแล้วยังจะหดลงอีก



​ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการที่เราเล่นสั้นทุกวัน หรือ รายวัน เพื่อที่จะหาทางทำกำไรหรือที่เค้าพูดกันเท่ห์ๆ ว่า หา “Cash Flow” มันมีตัวแปร หลายอย่าง ที่มาเกี่ยวเนื่องกัน ทั้งเรื่อง ความรู้ ฝีมือการหาจังหวะเข้าซื้อขาย รวมถึงต้นทุนการซื้อขาย หรือค่าคอมฯ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ อันดับต้นๆเลย



​แต่นอกจากค่าคอมฯ แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่จะต้องพิจารณาในการเลือกใช้บริการอีก มิใช่สักแต่ว่า ค่าคอมฯ ถูกแต่เพียงอย่างเดียว



สุดท้าย หากเราเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ของถูกไม่ดี และ ของดีไม่ถูก” นั้นก็ไม่จริงเสมอไป เพราะ “เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก” บอกเลยว่า ของดี ราคาเหมาะสม นั้น มีอยู่จริง ใครอยากรู้ เม้นต์ไว้น้ะจ้ะ หรือ มาทักถามกันได้จ้า