รีเซต

Google Cloud เปิดตัว “PanyaThAI” ใช้ Agentic AI ยกระดับองค์กรไทย

Google Cloud เปิดตัว “PanyaThAI” ใช้ Agentic AI ยกระดับองค์กรไทย
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2568 ( 12:49 )
15

Google Cloud ประกาศเปิดตัว PanyaThAI โครงการเพื่อยกระดับศักยภาพขององค์กรไทยในการพัฒนา ประยุกต์ และขยายการใช้งาน Agentic AI ระดับองค์กร เพื่อสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ และผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริงให้กับภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ 

โครงการนี้เริ่มต้นด้วยสมาชิกผู้ก่อตั้งจำนวน 15 องค์กร ได้แก่ บิทาซซ่า (Bitazza), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University), ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Dhipaya Group Holdings), ฟินโนมีนา (Finnomena), ไทยสมุทรประกันชีวิต (Ocean Life Insurance), ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED), บริษัท ช้อป โกลบอล อี-คอมเมิร์ซ จำกัด (Shop Global E-Commerce Company Limited), สยามพิวรรธน์ (Siam Piwat), แสนสิริ (Sansiri), สคูลดิโอ (Skooldio), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), ไทยวาโก้ (Thai Wacoal), ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO Financial Group), ท็อปส์ (TOPS)  และ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป (True Digital Group)

รูปภาพ Google Cloud

สะท้อนความเป็นไทย ตั้งแต่ชื่อโครงการ

“PanyaThAI” (ปัญญาไท) เป็นการเล่นคำระหว่างคำว่า “ปัญญา” และคำว่า “ไท” ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ของโครงการในการผสานสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยเข้ากับเครื่องมือทางเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ระดับโลกที่สามาถส่งมอบคุณค่าที่เป็นรูปธรรมให้แก่อุตสาหกรรม สังคม และเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งประเทศ ทั้งยังสะท้อนเจตจำนงร่วมขององค์กรสมาชิกในการนำนวัตกรรม AI มาพัฒนาอย่างมีความรับผิดชอบ

3 อุปสรรค ที่ยังไม่ปลดล็อกเต็มรูปแบบ

ผลการวิจัยจาก Public First เผยว่าหากองค์กรท้องถิ่นสามารถนำ AI มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้ราว 730,000 ล้านบาท (ประมาณ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2030 นอกจากนี้ 

งานวิจัยฉบับดังกล่าวยังระบุถึง 3 อุปสรรคหลักที่จำกัดองค์กรหลายแห่งจากการใช้ประโยชน์จาก AI อย่างเต็มประสิทธิภาพ ได้แก่

  1. การทำให้โซลูชัน AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องและน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง

  2. การขาดแหล่งข้อมูลที่พร้อมสำหรับการใช้งาน AI 

  3. การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้านการจัดการข้อมูลและ AI อย่างเหมาะสม

สู่โครงการพาองค์กรไทยทะยานด้วย Agentic AI 

รูปภาพจาก Google Cloud

นายอรรณพ ศิริติกุล กรรมการผู้จัดการ Google Cloud ประเทศไทย กล่าวว่า “จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารทั่วโลกพบว่า มากกว่าครึ่งรายงานว่าองค์กรของตนมีรายได้เพิ่มขึ้น 6-10% จากการนำโซลูชัน AI ระดับองค์กรมาให้ทีมงานและผู้ใช้บริการได้ใช้งานโดยตรง องค์กรของพวกเขากำลังจัดสรรงบประมาณด้าน AI อย่างน้อยครึ่งหนึ่งไปยังแพลตฟอร์ม Agentic แบบครบวงจร ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการออกแบบกระบวนการดำเนินงานใหม่ และเสริมสร้างความเป็นผู้นำทางการตลาดของพวกเขา”

“หากมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าบริษัทที่นำ AI ของ Google Cloud มาใช้อย่างจริงจังนั้นสามารถก้าวข้าม ‘Pilot Purgatory’ หรือการติดอยู่ในช่วงนำร่องไปได้สำเร็จ และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เฉลี่ยสูงถึง 727% ภายในเวลาเพียง 3 ปี พร้อมคืนทุนได้ในระยะเวลาเพียง 8 เดือน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI หรือแนวทางการทรานส์ฟอร์มทุกแห่งจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกันได้ ผ่านโครงการ PanyaThAI 

เรานำแบบแผนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จมามอบให้แก่องค์กรในประเทศไทย เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าถึงบริการ AI แบบครบวงจร พร้อมการฝึกอบรมและการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญที่จำเป็น ความมุ่งมั่นของเราคือการช่วยให้องค์กรสร้างทีมงานที่เข้าใจทั้งธุรกิจของตนและเทคโนโลยี AI ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขโจทย์ที่ซับซ้อนและสร้าง ROI อย่างต่อเนื่องจาก AI ได้สำเร็จ โดยขณะนี้เราได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากองค์กรต่าง ๆ และตั้งขยายการสนับสนุนนี้ สู่องค์กรอื่น ๆ เพิ่มเติมจาก 15 องค์กรแรกที่เข้าร่วมโครงการ” นายอรรณพ กล่าวเสริม

โครงการ PanyaThAI ดำเนินตามแนวทางแบบ Full-Stack ของ Google ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่น่าเชื่อถือและออกแบบขึ้นเฉพาะ และ งานวิจัยล้ำสมัยจาก Google DeepMind ไปจนถึงโมเดลพื้นฐานระดับแนวหน้าภายในพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ของ Google อาทิ Veo 3.1, Gemini 3, Gemini 3 Pro Image หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nano Banana Pro และ Gemini 2.5 Computer Use รวมถึงแพลตฟอร์มแบบครบวงจรอย่าง Vertex AI และ Gemini Enterprise ตลอดจนแอปพลิเคชันสำเร็จรูปอย่าง Customer Engagement Suite และ Google Workspace 

ภายใต้โครงการนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและ AI จาก Google Cloud พร้อมด้วยพันธมิตรในระบบนิเวศจะร่วมกันสนับสนุนให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใน Stack เหล่านี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อพัฒนาและปรับใช้โซลูชัน Agentic AI ที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการใช้งานหลากหลายรูปแบบ กระบวนการทำงาน และเวิร์คโฟลว์ โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว ต้นทุน และความปลอดภัยในทุกมิติ

พันธมิตรด้านการให้คำปรึกษาและการดำเนินงานของ Google Cloud ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ PanyaThAI ประกอบด้วย Accenture, Deloitte, Digithun Worldwide, HoriXonT8, MFEC, NTT DATA, Skooldio และ Tridorian ทั้งนี้ NTT DATA ยังได้ประกาศแผนเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Google Cloud ในประเทศไทยอีก 300 คน ครอบคลุมทั้งด้านการวิเคราะห์ข้อมูล, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์, และการปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัย เพื่อยกระดับความพร้อมในการสนับสนุนโครงการให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

รูปภาพจาก Google Cloud

แนวทางใหญ่ ที่  PanyaThAI อยากให้เป็น

ทั้งนี้ โครงการ PanyaThAI มุ่งสนับสนุนให้องค์กรสมาชิกนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปทรานส์ฟอร์มและประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแนวทางดังนี้ 

  • การร่วมกันพัฒนา AI Roadmap ที่ออกแบบเฉพาะและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยผสานเข้ากับกลยุทธ์หลักขององค์กรเพื่อให้การดำเนินงานด้าน AI สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ พร้อมระบุพื้นที่หรือกระบวนการสำคัญที่ Agentic AI สามารถสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างชัดเจน

  • ให้ความสำคัญกับการคัดเลือก Use Case ด้าน AI ที่เหมาะสมที่สุด โดยประเมินศักยภาพในการสร้างคุณค่าเทียบกับความเป็นไปได้และความพร้อมในการนำไปสู่การปฏิบัติจริง

  • พัฒนาโซลูชัน AI แบบเปิดและรองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่น สำหรับแต่ละ Use Case เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีอยู่ พร้อมต่อยอดและรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างมั่นคง

  • สร้างระบบกำกับดูแล ศูนย์กลางสำหรับโครงการ AI ซึ่งครอบคลุมทั้งการนำหลักการ Responsible AI และกรอบความปลอดภัย Secure AI Framework (SAIF) มาปรับใช้จริง พร้อม Grounding โซลูชัน AI กับแหล่งข้อมูลหลักขององค์กร หรือที่เรียกว่า “Enterprise Truth” เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้มีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และสอดคล้องอย่างต่อเนื่อง

  • กำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อใช้ติดตาม ประเมิน และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโซลูชัน AI ตลอดวงจรชีวิต

  • ยกระดับทักษะบุคลากรตั้งแต่นักพัฒนาไปจนถึงผู้บริหาร ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้และฝึกอบรมแบบครบวงจรที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง อาทิ Google Skills และ ChaiyoGCP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง