รถพระราชทานรู้ผลตรวจโควิดใน 3 ชม. ถึงสมุทรสาครแล้ว!

เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (27 ม.ค.64) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รับรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ 1 คัน และรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย 3 คัน โดยมี ดร.นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค นพ.อเนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค และคณะเข้าร่วม

ดร.นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า รถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย 3 คัน จะนำลงไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นก็จะนำตัวอย่างที่เก็บมา ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบสารคัดหลั่งในโพรงจมูก (SWAB) หรือ การเจาะเลือด หรือ น้ำลาย มาส่งให้กับรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ที่จะจอดอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อทราบผลได้ภายใน 3 ชั่วโมง

และในแต่ละวันจะสามารถตรวจหาเชื้อในกลุ่มตัวอย่างได้ประมาณ 800 – 1,000 ราย ทำให้เกิดความรวดเร็วต่อการปฏิบัติงานได้มากขึ้น เป็นการเสริมทัพให้กับห้องแลปในโรงพยาบาล หรือศูนย์ต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว โดยรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษคันนี้ เป็นรถต้นแบบที่ได้นำออกมาใช้ปฏิบัติงานจริงเป็นครั้งแรกที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากที่เคยทดลองใช้งานให้กับสถานีโทรทัศน์ NBT มาก่อน เพื่อหาว่ามีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่

ส่วนในอนาคตจะมีการสร้างรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ผลและความจำเป็นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนี้ก่อน แต่คาดว่าอาจจะมีมาเสริมทัพอีกหลายคัน 

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับรถคันนี้จะช่วยให้การทำงานเชิงรุกเพื่อการค้นหาผู้ติดเชื้อโควิดนั้น เป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถที่จะตรวจผลให้ทราบภายใน 3 ชั่วโมง ฉะนั้นถ้าเราพบกลุ่มเสี่ยงสูง ก็สามารถที่จะเก็บตัวอย่างโรคแล้วนำมาตรวจหาเชื้อที่รถคันนี้ได้ นั่นก็จะช่วยทำให้เราสามารถควบคุมโรคในจังหวัดสมุทรสาครได้เป็นอย่างดี

“วันนี้จังหวัดสมุทรสาครได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี ทรงพระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ 1 คัน และรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย 3 คัน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนชาวไทย และพสกนิกรชาวสมุทรสาคร สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น“ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าว