ทหารพรานรวบ 2 คนไทย ใช้รถตู้ขนแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้าเมือง 13 คน มุ่งหน้ารังสิต
สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพรานรวบ 2 คนไทยใช้รถตู้ขนชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองบริเวณชายแดน จ.สระแก้ว 13 คน มุ่งหน้ารังสิต ปทุมธานี คิดค้าจ้างหัวละ 3,000 บาท
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้กองกำลังชายแดนกวดขันเข้มงวดการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารพรานโดย พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 สั่งการให้กองร้อย ทพ.1205 โดย พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย.ทพ.1205 พร้อมกำลังพลชุดปฏิบัติการทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบและตั้งจุดตรวจสกัด ร่วมกับ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิทิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองลึก นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำการลาดตระเวนบนถนนศรีเพ็ญ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด้วย
พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย.ทพ.1205 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีรถตู้โดยสารต้องสงสัยขนย้ายแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจากพื้นที่ อ.โคกสูง เข้าพื้นที่ตอนในของไทย จึงจัดกำลังพลทำการตั้งด่านตรวจหนองสังข์ พิกัด TA.327230 บ.หนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำโดย ส.อ.นัฐพงษ์ ถวายทรัพย์ เป็น หน.ชุด พร้อมกำลังพล จำนวน 4 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตม.จ.สระแก้ว, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.สระแก้ว และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวชุดควบคุม ตชด.12 จนสามารถตรวจพบรถตู้โดยสารต้องสงสัยตามที่สายข่าวแจ้งมา จำนวน 1 คัน ขับขี่มาตามถนนเส้นทาง จาก อ.โคกสูง มุ่งหน้าไปทาง อ.อรัญประเทศ จึงขอเรียกทำการตรวจค้น พบผู้ขับขี่รถตู้โดยสารชายชาวไทย 1 คน และผู้นำพาชายชาวไทยอีก 1 คน และแรงงานชาวกัมพูชา นั่งโดยสารอยู่ภายในตัวรถตู้โดยสาร จำนวน 13 คน เป็นชาย 8 คน,หญิง 3 คนและ เด็กหญิง 2 คน จึงทำการควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้งหมด พร้อมคนไทย 2 คน มาดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบที่ทำการกองร้อยทหารพรานที่ 1205
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวน นายพรมาลี ศรีบุญ อายุ 49 ปี คนขับรถตู้ ที่อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1 ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก กล่าวว่า มีอาชีพเป็นพนักงานดูแลรีสอร์ท เป็นผู้ขับขี่รถตู้โดยสารโตโยต้าสีขาว ทะเบียน ฮภ-1640 กทม. มีเจ้าของรถชื่อ นางสาวรุ่งทิวา คำภีระ บ้านเลขที่ 149 ม.5 ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก ซึ่งเป็นภรรยาของ นายมานะ พุกเปี่ยม อายุ 31 ปี ผู้นำพา โดยตนได้รับการว่าจ้างจากนายมานะ ที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์เพื่อว่าจ้างให้ไปรับชาวกัมพูชาที่ จ.สระแก้ว ไปส่งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงได้ขับขี่รถตู้โดยสารมาพร้อมกับนายมานะ ผู้นำพา โดยออกจาก จ.นครนายก เมื่อวันที่ 21 ก.ย.63 เวลา 22.00 ขับขี่มาจนถึง บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
กระทั่ง เวลาประมาณ 23.15 จึงจอดรถรอ จนเมื่อเวลา 03.30 ของวันนี้ (22 ก.ย.) ได้มีรถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ผู้ขับขี่ชื่อนายเปิ้ล (ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุลจริง) ขับนำทางรถตู้โดยสารของตนไปยังจุดนัดพบ บริเวณ พิกัดTA.520244 ข้างวัดหนองจาน บ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบชาวกัมพูชายืนรอขึ้นรถอยู่จำนวน 13 คน นายเปิ้ลฯจึงได้บอกให้ชาวกัมพูชาไปขึ้นรถตู้โดยสาร เพื่อให้ตนขับไปส่งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต โดยตนจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท เมื่อส่งชาวกัมพูชาเสร็จสิ้น โดยการนำพาครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกัน นายมานะ พุกเปี่ยม อายุ 31 ปี ผู้นำพา ที่อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.5 ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทูน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ชาวไทย โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์ รู้จักกันสมัยอยู่ในเรือนจำ โดยว่าจ้างให้ไปรับชาวกัมพูชาที่ จ.สระแก้ว เพื่อไปส่งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และให้ไปคอยที่ บขส.อรัญประเทศ หลังจากนั้นจะมีรถนำพาไป จึงได้ว่าจ้าง นายพรมาลี ให้ขับรถตู้โดยสารของภรรยาตน เพื่อไปรับชาวกัมพูชาที่ จ.สระแก้ว ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท เมื่อส่งชาวกัมพูชาเสร็จสิ้น โดยนายทูน ผู้ว่าจ้าง จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีให้ ซึ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายปิ๊ก เคือก อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา อยู่ที่ บ.พนมซะเล๊าะ ต.พนมได อ.พนมซะเล๊าะ จ.บันเตียเมียนเจย มีเอกสารพาสปอร์ต บอกว่า ตนเองจะเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยไม่ทราบชื่อนายจ้าง ซึ่งเป็นนายจ้างเก่า จึงได้ติดต่อกับนายหน้าผู้นำพาชาวกัมพูชาให้ไปส่งตนที่บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต โดยเสียค่าเดินทาง จำนวน 3,000 บาท และลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติ และไปคอยขึ้นรถโดยสารที่นายหน้านำพาชาวกัมพูชาจัดหาให้ที่บริเวณข้างวัดหนองจาน บ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และเคยเข้าออกไทย เป็นครั้งที่ 10 ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ กองร้อย.ทพ.1205 ได้ทำบันทึกการสอบสวนเสร็จสิ้น ได้นำตัวผู้นำพาชาวไทย พร้อมแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว และ สภ.อรัญประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
—————————–